ไต้หวัน-ตำรวจไทย หารือตามจับคนฆ่าสามี-ภรรยา
เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ไต้หวันไปประชุมหารือกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการติดตามจับกุมตัว "นายหวัง" ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุฆาตกรรม สามี-ภรรยาตั้งครรภ์ท้องแฝดชาวไทย แล้วนำศพไปซ่อนไว้ท้ายรถ BMW ในไต้หวัน หลังพบข้อมูลการเดินทางกลับเข้าไทยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตัวแทนทางการไต้หวัน นำหลักฐานที่สืบสวนพบการก่อคดีฆาตกรรมสามี-ภรรยาตั้งครรภ์ท้องแฝดชาวไทย แล้วนำศพไปซ่อนไว้ท้ายรถ BMW ในไต้หวัน ไปประชุมร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม เพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายไปดำเนินคดี โดยมี พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมดังกล่าว
พลตำรวจเอก สุวัฒน์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม สอบปากคำและตรวจสอบพยานหลักฐานจากเจ้าหน้าที่ไต้หวันที่นำมามอบให้ เพื่อนำไปใช้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยมาดำเนินคดี และให้รวมคดีที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตไปแจ้งความกับตำรวจภูธรภาค 5 มาไว้ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว โดยยอมรับว่า ยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุแน่ชัด แม้จะมีการตั้งข้อสันนิษฐานมาจากการสืบสวนของตำรวจไต้หวันแล้ว
ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่า ผู้ต้องสงสัยมีทั้งสัญชาติไทย และไต้หวัน เรื่องนี้จะให้ตำรวจสันติบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบให้แน่ชัด เพราะหากชัดเจนว่ามีการถือสัญชาติไทยจริง ก็สามารถดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรมตามกฎหมายไทยได้
ทั้งนี้ จากข้อมูลตามรายงานการสืบสวนของตำรวจไทยและไต้หวัน พบว่า นายหวัง หรือ นายสันติ อายุ 35 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ พบประวัติการกระทำผิดกฎหมายเพียงเรื่องเดียว คือ คดีขับรถขณะเมาสุรา เมื่อเดือนตุลาคม 2559 ในพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยศาลชั้นต้นพิพากษาปรับ 5,000 บาท สั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่มีกำหนด 6 เดือน
โดย นายหวัง รู้จักและสนิทสนมกับ มี่ หญิงตั้งครรภ์ 5 เดือน ที่เสียชีวิต เนื่องจากเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อายุ 15 ปี ก่อนไปเป็นหุ้นส่วนทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการจัดหาแรงงานที่ไต้หวันด้วยกัน และยังเป็นลูกหนี้ที่ยืมเงินจากผู้เสียชีวิตไปปล่อยกู้กับกลุ่มแรงงานไทย ซึ่งชุดสืบสวนได้สอบปากคำพยานที่เห็นผู้ต้องสงสัยอยู่กับผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ก่อนที่จะหายตัวไป และพบข้อมูลว่าเดินทางออกจากไต้หวันไปถึงไทยในวันที่ 9 มิถุนายน จึงตั้งข้อสันนิษฐานว่า นายหวัง เป็นคนลงมือ ส่วนปมเหตุน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของการขัดผลประโยชน์กัน
