ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ศาลออกหมายจับ คนร้ายฆ่าสามี-ภรรยา ในไต้หวัน

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ตำรวจระบุ พบเบาะแสของผู้ต้องสงสัยจะเป็นคนร้ายที่สังหารสามี-ภรรยา ในไต้หวัน ยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีผู้ช่วยเหลือให้หลบหนีออกนอกประเทศ และล่าสุด ศาลอาญาก็ได้อนุมัติออกหมายจับคนร้ายรายนี้แล้ว

จากที่มีการพบศพสามี-ภรรยา ชาวไทย ถูกคนร้ายสังหาร และนำศพยัดใส่รถหรูนำไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน ที่ไต้หวัน ซึ่งจากแนวทางการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งเป้าอาจเป็นฝีมือของนายสันติ หรือ หวัง คนไทยที่ทำงานร่วมกับผู้เสียชีวิต และพบว่าได้เดินทางกลับประเทศไทย หลังจากเกิดเหตุ 

โดยเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่จากไต้หวัน ได้เข้าหารือที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ช่วยสืบสวนตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ เมื่อช่วงสายวันนี้ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ก็ได้นำพยานหลักฐานไปขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับนายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น หลังจากได้มีการสอบปากคำบิดาของผู้เสียชีวิตในฐานะผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 ที่ระบุว่า ผู้ใดกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร และผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย หากพบว่าเป็นความผิดใน 13 ฐานความผิดตามที่กฎหมายระบุไว้ ผู้นั้นจะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร ซึ่งกรณีนี้เป็นความผิดต่อร่างกาย และชีวิต ตามเงื่อนไขข้อกฎหมาย โดยศาลพิจารณาพยานหลักฐานแล้ว ก็ได้อนุมัติออกหมายจับนายสันติ หลังจากนี้ จะมีการประสานกับผู้ช่วยทูตตำรวจไต้หวัน ประจำประเทศไทย นำพยานหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ และเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี มาดำเนินคดีตามกระบวนการ

ส่วนการติดตามตัวนายสันติ ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปสืบหาตัวที่หมู่บ้านจัดสรร ในตำบลหนองหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พบพี่เขยของนายสันติให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วง 18.00 น. ของวันที่ 9 มิถุนายน นายสันติ กลับมาที่บ้านอ้างว่าคิดถึงลูก ก่อนจะขอยืมรถยนต์ของพ่อ ขับออกจากบ้านไปโดยไม่ได้บอกว่าจะไปไหนจากนั้นก็ติดต่อกันไม่ได้อีก ตำรวจไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามข้อมูลที่ได้มาพบว่านายสันติขับรถผ่านไปทางจังหวัดอุตรดิตถ์ มุ่งหน้าไปทางจังหวัดพิษณุโลก

พลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากข้อมูลทางการสืบสวนพบว่า นายสันติ ได้รับการช่วยเหลือจากคนสนิท จึงเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง คือยังกบดานตัวอยู่ในประเทศ หรืออาจถูกช่วยพาหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว เนื่องจากผู้ให้การช่วยเหลือ ค่อนข้างสนิทสนมกับกลุ่มว้าแดง ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศเพื่อนบ้าน แต่อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวต้องรอการสืบสวนหาเบาะแสให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน จึงจะยืนยันได้

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark