เจ้าของฟาร์มหมูโดนหลอกโอนเงินค่าจ้าง จ.ศรีสะเกษ

เช้านี้ที่หมอชิต - แก๊งมิจฉาชีพยังคงออกต้มตุ๋นประชาชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เจ้าของฟาร์มหมูรายใหญ่ของจังหวัดศรีสะเกษ ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงินค่าจ้างแรงงาน รวมมูลค่ากว่า 34,000 บาท

ผู้เสียหายเป็นหญิงอายุ 48 ปี เจ้าของฟาร์มหมูรายใหญ่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดศรีสะเกษ เข้าแจ้งความกับตำรวจ หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินค่าจ้างแรงงานล่วงหน้า 3 ครั้ง สูญเงินไปทั้งกว่า 35,000 บาท เจ้าของฟาร์มหมู เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเคยถูกหลอกลักษณะนี้มาหลายครั้ง แต่ไม่เคยหลงกลโอนเงินไป ซึ่งครั้งนี้ตนเองเพิ่งจะกลับมาเปิดฟาร์มหมูอีกครั้ง หลังจากที่เคยลดจำนวนคนงานในฟาร์มลง ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองกำลังตามหาคนงานใหม่ที่จะเข้ามาในฟาร์มอยู่นั้น ก็เห็นข้อความแจ้งเตือนขึ้นมาในโทรศัพท์ว่าต้องการทำงานในฟาร์ม เนื่องจากตกงานมานานหลายเดือน ตนเองก็เกิดความเห็นใจ จึงได้ติดต่อไปพูดคุยให้มาทำงานที่ฟาร์มจำนวน 4 คน

จากนั้นมิจฉาชีพก็เริ่มออกอุบายว่าไม่มีค่ารถเดินทางมา โดยค่ารถคนละ 870 บาท เป็นเงิน 3,480 บาท ตนเองก็โอนไปให้ มิจฉาชีพก็หลอกต่ออีกว่ามีค่าติดสัญญากับบริษัทแห่งหนึ่งอีกคนละ 4,000 บาท รวมเป็นเงิน 16,000 บาท โดยจะยกเลิกสัญญาภายใน 15 วัน แต่หากต้องการให้คนงานเดินทางมาทำงานเลย ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 16,000 บาท ตนเองก็โอนไปให้ รวมทั้งหมดที่จ่ายไปเป็นเงิน 35,480 บาท แต่พอโทรศัพท์กลับไปแจ้งว่าโอนเงินเรียบร้อยแล้ว ก็ถูกตัดสายทิ้ง ติดต่อไม่ได้ทันที จึงมั่นใจว่าถูกหลอกแน่นอน

ด้าน พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตอนนี้ในระบบของโทรศัพท์ แอปพลิเคชันต่าง ๆ มีแก๊งมิจฉาชีพหลอกหลวงประชาชนในหลายรูปแบบ ทางตำรวจได้มีการตั้งชุดป้องกันปราบปรามพิเศษขึ้นมา เพื่อการสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุมมิจฉาชีพเหล่านี้มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จึงฝากเตือนประชาชน หากมีโทรศัพท์แปลก ๆ ไม่รู้จัก ให้ตัดสายทิ้ง อย่าไปรับฟัง เพราะอาจจะหลงเชื่อแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ได้