ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ตีตรงจุด : ปลดล็อกกัญชา ไม่ใช่ใครก็บริโภคได้

เจาะประเด็นข่าว 7HD - หลังปลดล็อกกัญชา เกิดเทรนด์ของร้านอาหารต่าง ๆ นำกัญชาไปใช้เป็นส่วนผสมประกอบอาหาร มีหลายคนป่วยจากการแพ้ หรือเสพกัญชาเข้าไปเกินขนาด ที่น่าตกใจคือ หลายร้านไม่ได้แจ้งลูกค้าก่อนว่ามีส่วนผสมของกัญชาในอาหาร รวมถึงไม่บอกปริมาณหรือรายละเอียดของกัญชาที่ใส่ลงไป

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Sirijan Teerawan โพสต์ภาพของถุงต้มจืดที่มีใบกัญชาอยู่ในถุง เพื่อเตือนภัยหลังเธอกินอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาแล้วเกิดอาการแพ้ โดยระบุว่า "ฝากถึงพ่อค้า แม่ค้าทุกท่าน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกินกัญชาได้ สรุปเราแพ้กัญชา ด้วยความเสียดายกับข้าวที่ซื้อมา (ใส่กัญชา) เลยกินเองคนเดียว กินช่วงค่ำ ๆ พอดึก ๆ อาการออกหนัก ปวดหัว คอแห้ง คอบวม กลืนน้ำลายลำบาก กระหายน้ำมาก เพลีย ปวดท้อง รู้ว่าเป็นอาการแพ้ แต่ไม่รู้แพ้อะไร เลยไม่ไปโรงพยาบาล ก็กินยาแก้ปวด เกลือแร่ ทรมานมาก อยากให้เพื่อน ๆ ลองถาม หรือสังเกตอาหาร ก่อนสั่ง ก่อนกิน"

เธอเล่าว่าซื้อต้มจืดมะระใส้หมูสับถุงละ 70 บาท ตั้งใจจะเอามาให้ลูกกิน แต่พอเทออก มีใบกัญชาติดอยู่ พอถามกลับไปยังแม่ค้า แม่ค้าก็แจ้งกลับมาว่าทานได้  ใส่ไม่เยอะ เธอจึงกิน 2 คนกับสามี จากนั้น 2 ชั่วโมง เริ่มมีอาการเวียนหัว อาเจียน ผ่านไป 2 วันอาการไม่ดีขึ้น จึงรีบไปหาหมอ แพทย์วินิจฉัยว่าแพ้กัญชา แต่อาการเริ่มอ่อนแล้ว จึงให้กลับมาดูอาการที่บ้าน โดยเตือนให้ระวัง อย่ากินอาหารที่ผสมกัญชาอีก ส่วนแม่ค้าแสดงความรับผิดชอบ คืนเงินค่าต้มมะระ และออกค่ายา-ค่ารักษาให้

มีอาการที่เกิดขึ้นกับเด็กเช่นกัน เพจ TheLovelyAir.com ซึ่งเป็นเพจเกี่ยวกับครอบครัว การดูแลลูก โพสต์เตือนภัยแม่ ๆ ให้ระวังอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา หลังเพื่อนที่เป็นคุณหมอ เจอเคสของเด็กชัก หลังกินก๋วยเตี๋ยวที่ใส่กัญชา ซึ่งร้านผสมโดยไม่ได้บอกลูกค้า

โดยเพจระบุข้อความว่า เรื่องนี้ต้องระวังกันด้วย ทั้งคนท้องและเด็ก เพราะบางครั้งก็ไม่รู้ว่าร้านใส่กัญชาเป็นส่วนผสมในอาหารที่กินหรือไม่ และร้านอาหารเองควรมีป้ายแจ้งลูกค้าด้วยว่ามีส่วนผสมของกัญชา เพราะคนแพ้ก็มี คนไม่กินก็มี และคนที่ไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองจะแพ้ก็มี ร้านมีสิทธิใส่ แต่ก็ควรต้องแจ้งลูกค้า เพราะไม่ใช่คนทุกคนจะสามารถบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาได้ โดยเฉพาะเด็ก ๆ และสตรีที่ตั้งครรภ์

นอกจากผลทางร่างกายแล้ว อีก 1 อาการที่อันตราย คือ การออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง คือ สมอง อารมณ์ และจิตใจ ทีมข่าว 7HD ได้พบกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ชื่อคุณหวาน ที่โพสต์เล่าประสบการณ์เพื่อเตือนภัยและเป็นอุทาหรณ์ จากการรับกัญชาเข้าไปในร่างกายมากเกินไป หลังกินคุกกี้กัญชาแล้วมีอาการต่อร่างกายอย่างรุนแรง

โดยประมาณเดือนมีนาคมได้คุกกี้กัญชามาจากรุ่นพี่ แต่ที่กล่องและซองขนม ไม่มีรายละเอียดบอกปริมาณและสัดส่วนการผสมของกัญชา เธอกินไป 1 ชิ้น จากนั้น 1 ชั่วโมง รู้สึกว่ามีความผิดปกติ ใจสั่นและหัวใจเต้นเร็วและรัวมาก ขยับตัวไม่ได้ พูดไม่ออก คลื่นไส้ และมีความรู้สึกวิตกกังวล เห็นภาพจินตนาการที่มีแต่เหตุการณ์ร้าย ๆ ตลอดเวลา วน ๆ ซ้ำ ๆ ในหัว โดยที่เธอบังคับหรือควบคุมตัวเองไม่ได้

จนต้องพยายามขอความช่วยเหลือให้คนที่บ้านพาไปส่งโรงพยาบาล พอไปถึงหมอที่รักษาจะล้างท้องให้เธอ แต่ตอนนั้นเวลาผ่านไปเกือบ 5 ชั่วโมง อาการเริ่มดีขึ้น สุดท้ายจึงให้แค่น้ำเกลือ และให้กลับบ้าน หลังจากวันนั้นเธอก็ไม่กล้าที่จะกินอาหารที่มีการผสมกัญชาอีกเลย

สำหรับอาการของคนที่แพ้ หรือเสพกัญชาเข้าไปในร่างกายเกินขนาด จะพบว่าแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ทางร่างกาย เช่น ใจสั่น, หัวใจเต้นเร็วและรัวผิดจังหวะ, แน่นหน้าอก, หายใจไม่ออก, คลื่นไส้, ปวดหัว, อาเจียน, เป็นลมหมดสติ, เดินเซ พูดไม่ชัด ส่วนอาการทางระบบประสาท ทั้งสมองและจิตใจ จะมีทั้งสับสน กระวนกระวาย วิตกกังวล หวาดระแวงไม่สมเหตุสมผล หูแว่ว เห็นภาพหลอน พูดคนเดียว อารมณ์แปรปรวน

คงต้องบอกว่า แม้หัวใจในการปลดล็อกกัญชา จะเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ประชาชนปลูกเพื่อนำไปใช้กินบำบัดรักษาโรค และส่งเสริมเป็นพืชเศรษฐกิจ แต่ปัญหาที่พบคือ การให้ความรู้ประชาชน รวมถึงการควบคุมร้านอาหารต่าง ๆ ที่นำกัญชาไปเป็นส่วนผสม ซึ่งภาครัฐควรเข้ามาดูแลระหว่างยังไม่มีกฎหมายลูกออกมากำกับดูแล

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark