ราคาน้ำมันขยับ ทำความดันฯ ขึ้น ก๊าซหุงต้มจ่อขยับราคาอีก

เจาะประเด็นข่าว 7HD - เห็นราคาน้ำมัน หลายคนบอกทำความดันขึ้น เพราะยังไม่มีทีท่าจะลดลง แถมแนวโน้มยังอาจปรับเพิ่มทั้งดีเซลและเบนซิน เนื่องจากสถานะกองทุนน้ำมันติดลบใกล้แสนล้านเต็มที เรียกว่าบักโกรก จนยากจะอุ้มราคาน้ำมันทุกประเภทต่อไปได้อีก รวมถึงก๊าซหุงต้มด้วย ซึ่งหากจะสะท้อนต้นทุนจริง ภาครัฐบอกว่าราคาอยู่ที่ 450 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม

มาดูที่สถานะการเงินของกองทุนน้ำมันกันก่อน เพราะเป็นจุดตั้งต้นที่จะบอกเราว่า การสนับสนุนราคาไม่ว่าจะเป็นดีเซล เบนซิน หรือก๊าซหุงต้ม จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ โดยฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 12 มิถุนายน ติดลบ 91,089 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 54,574 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 36,515 ล้านบาท ซึ่งจะดูแลราคาพลังงานถึงสิ้นปีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเงินกู้และเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา มีการยกเลิกเพดานวงเงินกู้ยืมที่เดิมกำหนดไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อเปิดทางให้มีการกู้เงินมาเสริมสภาพคล่องได้มากขึ้น แต่ก็มีข่าวร้ายว่าการหาแหล่งเงินกู้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเงินกู้ก้อนแรกที่หวังว่าจะได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้จำนวน 2 หมื่นล้านบาท ยังหาบทสรุปไม่ได้ หากหาเงินกู้ไม่ทันเดือนนี้ ทั้งดีเซลและก๊าซหุงต้ม ก็มีแนวโน้มว่าจะขยับขึ้นในเดือนกรกฎาคม

โดยในส่วนของดีเซล มีการขยับเพดานสูงสุดจากเดิมกำหนดที่ 35 บาท เป็น 38 บาทแล้ว ซึ่งรัฐบาลจะกัดฟันตรึงราคาไว้ที่ 35 บาท ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ หากสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกยังพุ่งไม่หยุด เสริมสภาพคล่องให้กองทุนน้ำมันไม่ได้ คนไทยคงต้องทำใจจ่ายน้ำมันดีเซลในราคาที่แพงขึ้น

ซึ่งในส่วนของราคาดีเซลมีผลเป็นลูกโซ่ต่อต้นทุนการขนส่ง ล่าสุด กรมการค้าภายใน คำนวณตัวเลขให้เห็นชัด ๆ ว่า หากดีเซลแตะ 40 บาทเมื่อไหร่ เท่ากับต้นทุนค่าขนส่งจะเพิ่มขึ้นถึง 28 % แน่นอนว่าราคาสินค้าย่อมจะขยับตามไปด้วย

อีกหนึ่งข่าวร้ายคือ ก๊าซหุงต้ม ซึ่งเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายที่มีการขยับราคาต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนเมษายน เดือนละ 15 บาทต่อก๊าซถัง 15 กิโลกรัม รวม 45 บาท ทำให้ราคาก๊าซหุงต้มเพิ่มจาก 318 บาท ในเดือนมีนาคม เป็น 363 บาทในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกในเดือนหน้า หากกองทุนน้ำมันฯยังหาแหล่งเงินกู้มาเสริมสภาพคล่องไม่ได้ เป็นอีกหนึ่งสินค้าจำเป็นที่ต้องทำใจล่วงหน้าว่า เดือนกรกฎาคมอาจต้องจ่ายถึงถังละ 378 บาท โดยภาครัฐระบุราคาที่แท้จริงอยู่ที่ประมาณ 450 บาทต่อถัง

ส่วนเรื่องของค่าการกลั่นน้ำมัน ที่ตกเป็นเป้าจากหลายฝ่ายว่าแพงหฤโหด มีตัวเลขจากพรรคกล้า ถึงอัตราคาการกลั่นในวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า สูงถึง 8 บาท 56 สตางค์ต่อลิตร เป็นตัวเลขที่นายกรัฐมนตรีถึงกับต้องไปสอบถาม ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้เลยทีเดียว และแม้นายกฯจะอยากลดค่าการกลั่น แต่ก็บอกว่าทำได้ยาก เพราะมีกฎหมายคุ้มครองผู้ประกอบการ

สำหรับข้อเสนอของพรรคกล้าที่ส่งถึงรัฐบาล นอกจากลดค่าการกลั่นด้วยการกำหนดเพดานให้ชัดเจนแล้ว ยังมีเรื่องการเก็บภาษีลาภลอย และจริงจังกับมาตรการประหยัดการใช้พลังงานด้วย