ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ตีตรงจุด : ไขข้อสงสัย เซ็กซ์ 21 ครั้งต่อเดือน ลดป่วยมะเร็ง

เจาะประเด็นข่าว 7HD - กลายเป็นที่ฮือฮา หลังมีผลวิจัยต่างประเทศ ว่าการมีเซ็กซ์ 21 ครั้งต่อเดือน ทำให้ปลอดมะเร็งต่อมลูกหมาก เรื่องนี้จริงหรือไม่ และจะมีความเสี่ยงอย่างไร เพียงใด ตีตรงจุดวันนี้ จะพาไปไขข้อสงสัย

ต้นเรื่องมาจากที่ นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ปั่มปั๊ม 21 ครั้งต่อเดือน ปลอดมะเร็งต่อมลูกหมาก 

อ้างอิงถึงการประชุมประจำปีของสมาคมระบบทางเดินปัสสาวะของอเมริกา และตีพิมพ์ในวารสาร European Urology เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2016 ที่มีผลการศึกษา จากการติดตามโดยคณะศึกษาทางระบาดวิทยามะเร็งที่บอสตัน ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 31,925 คน ตั้งแต่ปี 1992 จนถึง 2010 ช่วงเวลาตั้งแต่อายุ 20-29 ปี, 30-39 ปี, 40-49 ปี และ 50 ปีเป็นต้นไป พบว่าในช่วง 18 ปีของการติดตาม มี 3,839 คน ที่เกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก และ 384 คน อาการรุนแรงถึงชีวิต

ที่น่าสนใจคือ ความเสี่ยงเกิดมะเร็งจะลดลงถึงประมาณ 20% ถ้ามีอัตราการมีเพศสัมพันธ์อยู่ในเกณฑ์อย่างน้อย 21 ครั้งต่อเดือน เมื่อเทียบกับผู้มีปฏิบัติการ 4-7 ครั้งต่อเดือน

แต่คนที่มีน้อยกว่า 21 ครั้ง ก็อย่าเพิ่งเสียใจ ถ้าอัตรา 8-12 ครั้งต่อเดือน ในช่วง 40-49 ปี จะมีความเสี่ยงลดลง 10% และถ้าอยู่ในอัตรา 13-20 ครั้งต่อเดือน ในช่วงอายุนี้จะมีความเสี่ยงลดลง 20%

แต่เมื่อดูลึกในละเอียดลงของกลุ่มมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง พบว่ากลุ่มนี้กลับไม่ค่อยเป็นกลุ่มรักสุขภาพนัก คือ กินเยอะ ดื่มเยอะ มีโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก และสูบบุหรี่เยอะ

เรื่องนี้ทีมข่าว 7HD สอบถาม นายแพทย์ศุภวัฒน์ ศิริคุปต์ นายแพทย์ชำนาญการ หัวหน้างานศัลยศาสตร์มะเร็งระบบทางเดินปัสสาวะ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ก็บอกว่าเป็นงานวิจัยที่เชื่อถือได้ สาเหตุที่มีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง ช่วยลดมะเร็งต่อมลูกหมาก เพราะมะเร็งต่อมลูกหมาก เกิดจากการบาดเจ็บของเซลล์อย่างต่อเนื่อง การมีเพศสัมพันธ์อาจจะช่วยกระตุ้นฮอร์โมน หรือสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อลดการอักเสบ จึงทำให้ภาวะการเกิดของมะเร็งช้าลงหรือลดลง และป้องกันการเกิดมะเร็งในอนาคตได้ 

โดยมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นโรคที่มักพบในกลุ่มผู้สูงอายุ ปัจจัยที่มีความเสี่ยงคือ เรื่องของวัย และพันธุกรรม หากเคยมีคนในครอบครัว ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากมาก่อน ก็จำเป็นต้องตรวจคัดกรอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรค

ซึ่งความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ 21 ครั้ง ถือเป็นตัวเลขที่มากไปหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยแต่ละบุคคล เช่น วัย คู่สมรส หรือคู่ที่มีเพศสัมพันธ์ด้วย ที่จะตกลงกัน

นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องระวังมากกว่าเรื่องของความถี่หรือจำนวนครั้ง คือ ต้องระวังในเรื่องของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจเกิดขึ้น ถ้าไม่ป้องกัน หรือมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช่คู่ของตัวเอง ที่พบบ่อย 5 อันดับแรก คือ หนองในแท้, หนองในเทียม, ซิฟิลิส, หูดที่อวัยวะเพศ และโรคกลุ่มแผลริมอ่อนที่อวัยวะเพศ

ซึ่งปัจจุบันโรคทางเพศสัมพันธ์เหล่านี้ จะมีความดื้อยามากขึ้น ทำให้รักษาหายยากมากขึ้น และเกิดการกระจายในวงกว้างมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ขณะที่ นายแพทย์มนัส รามเกียรติศักดิ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย บอกว่า จริง ๆ แล้วประโยชน์ของการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากเรื่องการเจริญพันธุ์สืบทอดทายาท และแสดงออกถึงความสัมพันธ์ความรักแล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ช่วยลดความเครียด และมีการหลั่งสารเคมีออกมาในร่างกาย ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น

การมีเพศสัมพันธุ์ 21 ครั้งต่อเดือน ลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมากนั้น ไม่ใช่ประเด็นเดียวที่จะนำมาพิจารณา เพราะจริง ๆ มีความสัมพันธ์กับเรื่องของเชื้อชาติ อายุ และสุขอนามัย กรรมพันธุ์ด้วย

ส่วนจะมีเพศสัมพันธ์กี่ครั้งถึงจะเหมาะสม ก็ไม่สามารถตอบชี้ชัด แต่ทางการแพทย์แนะนำว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนความถี่ห่าง ไม่ใช่ข้อจำกัด ขึ้นอยู่กับสุขภาพและวัย และต้องคำนึงถึงความยินยอมพร้อมใจของคู่ด้วย หากมีเพศสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับวัย และสภาวะร่างกาย ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรงได้ เพราะมีรายงานในต่างประเทศว่า ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและความดันได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม คุณหมอได้ฝากเตือนในเรื่องของการใช้อุปกรณ์ร่วมในการมีเพศสัมพันธ์ เช่น เซ็กซ์ทอย ที่ยังไม่ถูกกฎหมาย และมีเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน ความสะอาดของเครื่องมือนั้น ๆ เพราะเสี่ยงติดเชื้อ อักเสบ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้

คุณหมอย้ำว่า เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเรื่องสร้างสรรค์เช่นกัน ดังนั้นควรที่มีความสมดุลในวัย เวลา บริบทที่เหมาะสม

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark