ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ไม่รู้ขัดแย้งอะไรกัน ชักมีด-ปืน ไล่ยิงกันสนั่นร้านอาหาร จ.ปราจีนบุรี

ข่าวอาชญากรรม 19 มิถุนายน 2565 - สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ไม่รู้ไปโกรธอะไรกันมาแต่ปางไหน ตอนแรกนั่งดื่มกันอยู่คนละร้าน แต่จังหวะที่จะพากันกลับบ้าน กลับเปิดฉากทั้งต่อย ทั้งแทง ทั้งชักปืนออกมายิงสวนกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางดึกเมื่อวานที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน ที่บริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่ง บนถนนราษฎรดำริ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าที่พื้นถนนมีขวดแก้วแตก มีคราบเลือด ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 3 ปลอก และกระสุนปืนอีก 2 นัด

ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายขวัญ ใจเย็น อายุ 35 ปี ถูกแทงเข้าที่หน้าอกซ้าย, นายภาณุวัฒน์ สุภฤทธิ์ อายุ 24 ปี ถูกยิงเข้าที่ต้นขาขวา ส่วน นายอนุชา ปัญญา อายุ 30 ปี ถูกยิงเข้าที่ท้อง กู้ภัยเร่งนำตัวทั้งสามคนส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นายขวัญ ได้ไปนั่งทานอาหารเครื่องดื่มที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับลูกชาย อายุ 18 ปี และนายภาณุวัฒน์ เพื่อนรุ่นพี่ของลูกชาย นั่งกินดื่มในร้านจนดึก ก่อนจะพากันเดินออกมาจากร้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่ นายอนุชา ปัญญา อายุ 30 ปี กับพวกกว่า 10 คน ที่นั่งกินอยู่ร้านข้าง ๆ เดินออกมาเจอกันพอดี ทั้ง 2 ฝ่าย ก็เกิดมีปากเสียง ก่อนจะทำร้ายร่างกายกัน โดย นายอนุชา เปิดฉากใช้มีดแทงนายขวัญ จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงเปิดฉากชักปืนยิงใส่กันจนได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย ส่วน นายชัยชนะ ใจเย็น อายุ 18 ปี ลูกชายนายขวัญ หลังก่อเหตุยิงนายอนุชา ได้วิ่งหลบหนีไปก่อนที่ตำรวจจะมาถึง

หญิงอายุ 50 ปี เจ้าของร้านอาหาร บอกว่า ตอนนั้นเธอได้ยินเสียงปืนหลายนัด มีการยิงตอบโต้กัน จากนั้นก็เห็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุถือปืนวิ่งมาผ่านหน้านร้าน เธอบอกด้วยว่า ตอนที่ทั้ง 2 ฝ่าย มีปากเสียงกันเธอยังไม่รู้เรื่อง แต่มาเห็นอีกทีก็ตอนที่ทั้ง 2 ฝ่าย ทำร้ายร่างกายกัน แล้วชักปืนออกมายิงแล้ว

ต่อมาช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) นายชัยชนะ ใจเย็น ได้ติดต่อนักการเมืองท้องถิ่น เพื่อขอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ

โดยผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุ ที่ร้านฝั่งตรงข้ามเขามีเรื่องทะเลาะกันอยู่ นายขวัญผู้เป็นพ่อที่จอดรถอยู่ตรงนั้น ก็กำลังจะเดินไปขึ้นรถจะกลับบ้าน จู่ ๆ อีกฝ่ายก็เดินปรี่เข้ามาหาเรื่องพ่อกับรุ่นพี่ พร้อมกับถามพ่อตนเองว่า "มองหน้ามีอะไรหรือเปล่า" ซึ่งพ่อของตนก็เดินหนี แต่อีกฝ่ายไม่ยอมหยุด เดินมาชี้หน้าพร้อมกับต่อย ทำร้ายร่างกายพ่อและรุ่นพี่ ตนเองพยายามจะเข้าไปห้าม ก็ถูกต่อยด้วยเหมือนกัน จังหวะนั้นอีกฝ่ายใช้มีดแทงพ่อ ตนเองจึงทนไม่ไหวคว้าปืนจากใต้เบาะรถ ยิงไป 1 นัด เพื่อปกป้องบุพการี ไม่ได้เจตนาจะฆ่าใคร

ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐานพยายามฆ่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร

ขณะที่ ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม กระทั่งไปพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุที่ใช้อาวุธปืนยิงคู่กรณี คือ นายกิติศักดิ์ มานะจิตร โดยตำรวจเตรียมจะออกหมายจับล่าตัว แต่ปรากฏว่ากลางดึกที่ผ่านมา (18 มิ.ย.) นายกิตติศักดิ์ ติดต่อเข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืนของกลาง

นายกิติศักดิ์ ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่าเหตุที่เกิดขึ้น มาจากสาเหตุใด เพราะจังหวะที่เดินออกมาจากร้านที่นั่งกินข้าว นั่งดื่มสังสรรค์กัน ก็เห็นคู่กรณี 4 คน รุมทำร้ายน้องในกลุ่ม ตนเองก็พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ได้ยินเสียงปืนมาจากฝั่งคู่กรณี แถมน้องยังบอกว่าถูกยิง ตนเองจึงไปหยิบปืนที่รถออกมายิงสวนไป 1 นัด  โดยไม่รู้ว่า กระสุนพุ่งไปถูกใครบ้าง

หลังจากนี้ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงสืบหาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และสอบปากคำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อหาชนวนเหตุ ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดทั้งหมด ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark