ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

สคบ.เรียกสอบ ร้านบุฟเฟต์แซลมอนดัง หลังลูกค้าซื้อคูปอง ทยอยแจ้งความเอาผิด

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ข่าวนี้เตือนใจคนชอบของดีราคาถูก ต้องดูให้รอบคอบ เพราะแม้จะมีอยู่จริง แต่ก็อาจมาพร้อมกับการหลอกลวง เหมือนกรณีบุฟเฟต์แซลมอน ที่กำลังเป็นกระแสครึกโครมอยู่ในขณะนี้ หลัง สคบ. พบผู้เสียหาย 33,000 คน มูลค่าความเสียหายเกือบ 130 ล้านบาท โดยผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความแล้ว ขณะที่ สคบ.ก็ลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยเช่นเดียวกัน

สคบ.เรียกสอบ ร้านบุฟเฟต์แซลมอนดัง หลังลูกค้าซื้อคูปอง ทยอยแจ้งความเอาผิด
199 บาท คือราคายั่วยวนใจ ชวนให้ผู้คนยอมควักเงินจ่ายให้กับโพรโมชันบุฟเฟต์แซลมอน จากราคาวอล์กอินปกติอยู่ที่ 499 บาท ลดไปถึง 300 บาท ไม่เพียงมีคนสนใจอยากกินแซลมอนราคาถูกเท่านั้น ยังมีกลุ่มคนซื้อเวาเชอร์เพื่อเก็งกำไร รวมมีการซื้อเวาเชอร์มากกว่า 600,000 ใบ มีผู้เสียหายมากกว่า 33,000 ราย มูลค่าความเสียหายขณะนี้เกือบ 130 ล้านบาท ยังมีรวมบรรดาผู้ประกอบการที่ลงทุนแฟรนไชส์ ยอมทุ่มเงินหลักล้านเพื่อร่วมทำธุรกิจ แต่เจ้าของร้านกลับปิดกิจการแบบฟ้าผ่าทุกสาขา จนถึงขณะนี้ยังล่องหนหาตัวไม่เจอ

ด้าน พันตำรวจเอก ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการสคบ.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบร้านบุฟเฟต์แซลมอนชื่อดังในห้างสรรพสินค้า สาขารามอินทรา ซึ่งพบว่าก่อนหน้านี้ร้านนี้ขายดีมาก มีลูกค้ามาต่อคิวทุกวัน โดยไม่มีสัญญาณบ่งชี้ ว่าจะปิดหนีผู้บริโภค

ถึงทางร้านค้างค่าเช่าอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดสังเกต เพราะสถานการณ์โควิด-19 หลายร้านที่เช่าพื้นที่กับทางห้างก็ขอค้างค่าเช่าเช่นกัน แต่หลังโควิด-19 คลี่คลาย ทางร้านบุฟเฟต์แซลมอน ก็ยังค้างค่าเช่า แต่ห้างเห็นว่าขายดี เลยไม่ได้ผิดสังเกต จนทราบภายหลังว่าค้างค่าวัตถุดิบ กระทั่งตกเป็นข่าว และปิดสาขาให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน

นอกจากนี้ สคบ. ยังเชิญผู้จัดการ พนักงาน และผู้พัฒนาแอปพลิเคชันของร้าน เข้าให้ข้อมูล เบื้องต้นได้ปิดระบบแอปพลิเคชันป้องกันผู้หลงเข้ามาซื้อคูปองเพิ่มอีก ผู้จัดการร้านสาขาหนึ่งยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ทุกอย่างเป็นปกติ แต่มีสัญญาณเรื่องค่าใช้จ่ายค่าวัตถุดิบไม่ตรงเวลา

ทั้งนี้พนักงาน และ ผู้จัดการสาขาต่าง ๆ ยังไม่มีใครเจอตัวเจ้าของร้านเจอ และทางร้านยังไม่มีเงินคืน เพราะเงินที่ซื้อปองจะถูกโอนเข้าบัญชีเจ้าของร้านทั้งหมด โดยจะเดินทางไปลงทะเบียนคนว่างงานกับสำนักงานประกันสังคม และจะแจ้งความเอาผิดทางผู้บริหารร้านด้วย

ทยอยแจ้งความเอาผิด เจ้าของบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น
ขณะที่ผู้ไปซื้อคูปองล่วงหน้ากับร้านขายแซลมอนชื่อดังแห่งนี้ที่จัดโพรโมชัน 199 บาท ก่อนปิดให้บริการพร้อม ๆ กัน ทุกสาขา มีผู้เสียหายจำนวนมาก วันนี้มีทั้งคนที่ซื้อคูปอง และผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดร้านอาหาร ไปแจ้งความเอาผิดกับเจ้าของบริษัทที่กองบังคับการปราบปราม

หนึ่งในผู้เสียหาย บอกเปิดสาขาอยู่ที่ย่านสายไหม ซื้อแฟรนไชส์ในราคา 2 ล้านบาท มีข้อตกลงว่าร้านแฟรนไชส์ต้องโอนเงินรายได้ทุกวันไปให้เจ้าของแบรนด์ แลกกับเงินปันผลกำไร 10% จากยอดขายทั้งหมดของแต่ละเดือน ซึ่ง 2 เดือนแรก ได้เงินปันผลมาเฉลี่ยเดือนละกว่า 100,000 บาท แต่พอเดือนที่ 3 ก็ไม่ได้รับเงินปันผล อีกทั้งเจ้าของแบรนด์ก็ไม่ส่งวัตถุดิบให้ ทำให้ไม่สามารถเปิดร้านขายได้ จะไปซื้อวัตถุดิบจากแหล่งอื่นก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นการผิดข้อสัญญา จึงต้องปิดให้บริการไป

ผู้เสียหายอีกราย บอกซื้อแฟรนไชส์ราคา 2.5 ล้านบาท จะเปิดร้านที่ย่านวัชรพล วันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่สุดท้ายไม่สามารถเปิดร้านได้ เพราะเจ้าของแบรนด์ไม่ส่งวัตถุดิบให้ และทราบว่ามีผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดร้านไปอีกหลายราย นอกจากนี้ยังมีพนักงานต้องถูกลอยแพกว่า 300 คน จากทั้งหมด 27 สาขา

ด้าน นายเอกภพ บอกว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรม ให้ช่วยประสาน ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และอายัดเงินในบัญชี เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเทเงินของเจ้าของแบรนด์ เพื่อยึดทรัพย์มาเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายต่อไป

ส่วนกลุ่มผู้ที่ซื้อคูปองกินบุฟเฟต์ล่วงหน้า ก็รวมตัวไปร้องทุกข์กับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีกับร้านฯ ดังกล่าว

สำหรับ นายเมธา ชลิงสุข เจ้าของร้านดารุมะ ซูชิ ที่เป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ มีรายงานว่า ได้เดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่ 23.00 น.ของวันที่ 16 มิถุนายน ปลายทางที่สหรัฐอาหรับเอมิเรต หรือดูไบ ซึ่งในขณะนี้ สคบ.ได้ประสานกับทางตำรวจ เพื่อตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark