สงสัยแอบเข้าไปลักทรัพย์ แต่สำลักควันไฟ นอนสลบอยู่หน้าพระประธานในโบสถ์ จ.ลพบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต - มีพระและชาวบ้านที่เข้าไปช่วยกันดับเพลิง ที่ไหม้โบสถ์ของวัดแห่งหนึ่งที่จังหวัดลพบุรี แล้วไปพบชายคนหนึ่งนอนหมดสติอยู่ด้านหลังพระประธาน โดยมีพระพุทธรูปวางอยู่ใกล้ตัวของชายคนนี้ ทำให้เชื่อว่าเขาน่าจะเป็นคนร้ายที่แอบเข้ามาลักทรัพย์ แต่เกิดเพลิงไหม้เสียก่อน ทำให้ลักทรัพย์ออกมาไม่ได้

ตำรวจ สภ.พัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ได้รับแจ้งจากพระลูกวัดมรกตวราวาส ตั้งอยู่ที่ตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ว่าเกิดเพลิงไหม้โบสถ์ เมื่อประสานกำลังไปตรวจสอบ พบเจ้าหน้าที่และชาวบ้านเร่งมือช่วยกันนำน้ำมาดับเพลิง ที่กำลังลุกไหม้ภายในโบสถ์ดังกล่าว กระทั่งเพลิงสงบเข้าตรวจสอบภายในโบสถ์ พบต้นเพลิงอยู่บริเวณพรมผืนหนึ่งที่ปูอยู่หน้าพระประธาน รวมทั้งมีเสื่อปูนั่งที่ทำจากพลาสติก ถูกเพลิงไหม้เป็นวงกว้าง จากนั้นไปตรวจสอบต่อที่ด้านหลังพระประธาน

ปรากฏพบชายคนหนึ่ง ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว นอนหมดสติ ชาวบ้านจึงอุ้มตัวออกมาไว้ด้านนอกโบสถ์ ซึ่งทั้งพระลูกวัดและชาวบ้านเชื่อกันว่า ชายคนนี้น่าจะประสงค์เข้ามาลักทรัพย์ เนื่องจากตรวจสอบพบร่องรอยบานประตูหน้าโบสถ์ มีร่องรอยงัดแงะ หรือไม่ก็ถูกผลักอย่างแรง จนทำให้กลอนแบบไม้ขัดด้านในหลุด ขณะเดียวกันยังพบพระพุทธรูป หน้าตัก 5 นิ้ว ซึ่งปกติจะวางอยู่หน้าพระประธาน แต่ถูกย้ายมาวางไว้บนพื้น

ด้าน พระครูอาภากรวิวัฒน์ เจ้าคณะตำบลดีลัง ในฐานะเป็นเจ้าคณะปกครองต้องเป็นผู้ดูแล วัดมรกตวราวาส เล่าว่า ทุกวันนี้วัดมรกตวราวาส ไม่มีเจ้าอาวาส มีแต่พระลูกวัดอยู่กันเพียง 3 รูป โดยโบสถ์ที่เกิดเหตุชาวบ้านลงเงินช่วยกันบูรณะเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว แต่ยังไม่เสร็จ กลับมาถูกคนร้ายฉกฉวยโอกาสเข้าไปลักทรัพย์ แถมยังเชื่อว่าเป็นคนต้นเรื่องทำให้เกิดเพลิงไหม้ สร้างความเสียหายเพิ่มภายในโบสถ์ให้อีก และเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่าคนร้ายเข้ามาได้ แต่ทำไมออกไปไม่ได้ ก็คงเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนร้าย อยากฝากว่ากรรมเวรมีจริง ไม่ว่าจะทำดีหรือทำชั่วก็ตาม กรรมใครเป็นผู้กระทำ ผู้นั้นต้องเป็นผู้รับเสมอ

เรื่องนี้ ร้อยตำรวจ ภชรดา พงษ์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.พัฒนานิคม ลพบุรี เปิดเผยว่า ชายคนที่พบนอนหมดสติอยู่ด้านหลังพระประธานในโบสถ์ จะเป็นผู้กระทำตามที่สงสัยกันหรือไม่นั้น ต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียดเสียก่อน เนื่องจากไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ โดยขณะนี้ทำได้เพียงรอให้เขาอาการดีขึ้น ถึงจะสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง