แนวชายแดนร้อนระอุ ทหารเมียนมา-ทหารกระเหรี่ยง ปะทะเดือดหลายชั่วโมง

เช้านี้ที่หมอชิต - ทหารกระเหรี่ยง กับทหารเมียนมา ปะทะเดือดกันอีกครั้ง ทำให้สถานการณ์การสู้รบที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตรึงเครียดขึ้นอีก จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะขอข้ามมารักษาฝั่งไทย ขณะที่ชาวบ้านแนวชายแดนพากันผวาหาที่หลบภัย ส่วนเจ้าหน้าที่ไทยตรึงกำลังฝั่งเข้ม

ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเมื่อวานนี้ ทหารกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู พร้อมดัวยทหารกระเหรี่ยงเคเอ็นดีโอ (KNDO) และกลุ่มพีดีเอฟ (PDF) ได้สนธิกำลังกันจำนวนมากกว่า 100 นาย พร้อมอาวุธครบมือบุกเข้ายิงโจมตีฐานทหารเมียนมา บ้านอูเกรทะ อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับห้วยแม่หม้าย หมู่ที่ 2 บ้านวาเล่ย์ใต้ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยมีเป้าหมายที่จะบุกเข้ายึดฐานของทหารเมียนมา

ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้ามืดยาวมาถึงช่วงเย็น ทั้งเสียงปืนและเสียงระเบิดจากการยิงปะทะของทั้งสองฝ่ายยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้ยินเสียงระเบิดได้อย่างชัดเจนในฝั่งอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เนื่องจากห่างกันเพียง 400 เมตร ส่งผลทำให้ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนติดกับลำห้วยวาเล่ย์ ต่างรีบเก็บสิ่งของที่จำเป็นเร่งหนีออกจากบ้านพักไปนอนพักอาศัยในที่ปลอดภัยชั่วคราว แต่ก็ยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังคงอยู่ในบ้านพักของตนเอง ซึ่งก็มีการเตรียมความพร้อมที่จะอพยพทันทีหากมีกระสุนปืนจากอาวุธหนักหลุดข้ามมายังฝั่งไทยก็พร้อมอพยพหนีได้โดยทันที

จากการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักของทหารทั้งสองฝ่ายอย่างดุเดือดตลอดทั้งวัน ส่งผลทำให้มีราษฎรฝั่งเมียนมาได้รับบาดเจ็บจากการถูกสะเก็ดระเบิด เบื้องต้นจำนวน 7 คน ถูกนำตัวข้ามลำห้วยวาเล่ย์ มาขึ้นฝั่งหมู่บ้านมอเกอร์ไทยซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว โดยมีรถยนต์ของหน่วยกู้ชีพได้เข้าไปรับตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลอำเภอพบพระ โดยเป็นการช่วยเหลือตามหลักสากลและตามหลักมนุษยธรรมในภาวะภัยสงคราม

หน่วยกู้ชีพในพื้นที่ชายแดนอำเภอพบพระ ยังคงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรอรับผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งคาดว่าจะมีอีกจำนวนหลายรายที่จะทยอยข้ามแนวชายแดนมาขอรับการรักษาฝั่งไทย หลังการยิงปะทะยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด และคาดว่าจะมีการยิงปะทะกันอย่างหนักแบบขั้นแตกหักช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ต้องเฝ้าจับตาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืน