เจ้าของตึกถูกเพลิงไหม้ หวั่นไม่ได้รับการเยียวยา
เจาะประเด็นข่าว 7HD - เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ทำให้เจ้าของตึกที่เสียหาย หวั่นใจว่าอาจจะไม่ได้รับการเยียวยา อยากถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าต้องสูญเสียอีกกี่ชีวิต ปัญหานี้ถึงจะได้รับการปรับปรุงแก้ไข คุณรัตนกรณ์ โต๊ะหมัด รายงานสดจาก ย่านตลาดสำเพ็ง ถนนราชวงศ์
ด้านหลังที่คุณผู้ชมเห็น นี่คือภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น ตึกกว่า 7 คูหา ถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหมด โดย เขตสัมพันธวงศ์ ประเมินความเสียหายไว้ที่ 100 ล้านบาท แต่เจ้าของตึกแค่ตึกเดียวบอกว่า เขาได้รับความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท หวั่นไม่ได้รับการเยียวยา
วันนี้ นายเกียรติศักดิ์ แซ่แต๊ เจ้าของตึกที่ขายของใช้เด็ก หนึ่งในตึกที่ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ ได้เดินทางมาสำรวจความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ โดยบอกว่า จากการประเมินเขาน่าจะได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท เพราะนอกจากตึกแล้วยังมีทรัพย์สินที่อยู่ภายในตึกได้รับความเสียหายทั้งหมดด้วย พร้อมฝากเตือนเจ้าหน้าที่ หน่วยงานรัฐ ขอให้มีความรับผิดชอบ หากหม้อแปลงหรืออะไรที่เก่า มีปัญหา ก็ควรจะเปลี่ยน อย่าให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมเหมือนในครั้งนี้ แล้วค่อยมาแก้ทีหลัง
โดยในวันนี้ อาจารย์ธเนศ วีระศิริ นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบ กล่าวว่า แบ่งความเสียหายเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนโครงสร้างที่เป็นคอนกรีตและเหล็ก หากมองตรงเข้าไปจากหม้อแปลง ห้องที่ตรงกับหม้อแปลงจะไม่ได้รับความเสียหายมากนัก เนื่องจากโครงสร้างอาคารเป็นคอนกรีต แต่ 2 คูหาซ้ายมือ จะได้รับความเสียหายหนัก เนื่องจากโครงสร้างเป็นเหล็ก เมื่อโดนความร้อนจึงเสียรูปทั้งหมด รวมถึงมีผนังบางส่วนที่เกิดการระเบิดด้วย จึงมีคำแนะนำสำหรับเจ้าของอาคารหากจะปรับปรุงกลับมาใช้งาน จะต้องมีการตรวจสอบเชิงลึกทางวิศวกรรมอีกครั้ง ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ควรเข้าไปภายในอาคาร เพราะอาจเกิดการทรุดตัวได้ เนื่องจากอาคารมีอายุการใช้งานมานานอยู่แล้ว
ด้าน ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง บอกว่า ในส่วนที่ผู้เสียหายกังวลว่าจะได้รับการเยียวยาหรือไม่นั้น ต้องพิสูจน์สาเหตุของการเกิดเหตุก่อน ด้วยการตรวจพิสูจน์ระบบด้านในหม้อแปลงไฟฟ้า ร่วมกับพิสูจน์หลักฐานกลาง หากเป็นความผิดพลาดของการไฟฟ้าจริง ก็ยินดีที่จะเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุหม้อแปลงขัดข้อง
ขณะที่ ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ บอกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายประมาณ 7 คูหา ซึ่งจากการประเมินมีมูลค่าความเสียหายราว 100 ล้านบาท ซึ่งต้องรอผู้เสียหายมาแจ้งรายละเอียดอีกครั้ง พร้อมยอมรับในพื้นที่ยังไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้มาก่อน ถือเป็นบทเรียนสำคัญ โดยหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งสำรวจสายไฟเก่าและเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า
ด้าน ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้ตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย มีการทำประกันสังคมไว้ รวมถึงรายที่เป็นแรงงานต่างด้าวด้วย จึงจะได้รับเงินชดเชยจำนวน 50,000 บาทต่อราย และยังมีเงินทดแทนตามระยะเวลาการทำงาน ที่กระทรวงแรงงานจะจ่ายให้ 70% ของค่าแรง โดยต้องไปตรวจสอบระยะเวลาการทำงานของทั้ง 2 คน อีกครั้ง
หม้อแปลงที่เกิดระเบิด จากการตรวจสอบพบว่ามีประมาณ 400 ลูกทั่ว กทม. และอีกปัญหาสำคัญ คือ สายสื่อสารที่ห้อยระโยงระยาง และเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
