ไขปริศนา ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กลุ่ม 608 และผู้มียีนกลายพันธุ์ ป้องกันโอมิครอน BA.4 - BA.5

เจาะประเด็นข่าว 7HD - เผยจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กลุ่มเสี่ยง 608 และผู้มียีนกลายพันธุ์ เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงจากการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ไขคำตอบถึงความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ป้องกันโอมิครอนสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง 608 หรือกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และผู้ที่มียีนกลายพันธุ์

เพราะกลุ่ม 608 เมื่อติดเชื้อจะมีอาการรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป ขณะที่ผู้มียีนกลายพันธุ์ ก็เป็นกลุ่มที่ง่ายหรือมีแนวโน้มติดเชื้อซ้ำ และเมื่อติดเชื้อจะมีอาการรุนแรง บางรายเสียชีวิตทั้งที่ไม่ใช่กลุ่ม 608

จึงเป็นเหตุสำคัญที่ควรฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อลดป่วยรุนแรงและลดการเสียชีวิต ส่วนการป้องกันหน้ากากอนามัยให้ผลดีที่สุด

ทั้งนี้ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนจะคงอยู่ประมาณ 3-4 เดือน ส่วนภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อ 6 เดือน - 1ปี แต่โอมิครอน BA.4 และ BA.5 มีการกลายพันธุ์ ร่างกายสร้างแอนติบอดีไม่ทันการ ไม่ทันการณ์จึงต้องรอการนำวัคซีน Bivalent Vaccine ซึ่งใช้ทั้งไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมและโอไมครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมเป็นต้นแบบอยู่ในเข็มกระตุ้นเข็มเดียว ซึ่งมีข้อมูลว่ากระตุ้นภูมิได้ต่อ BA.4 และ BA.5 สูงขึ้น 5 เท่า ขณะที่กระตุ้นภูมิต่อโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมสูงถึง 8 เท่า

ขณะที่โควิด-19 ในไทยเป็นช่วงขาลงต่อเนื่อง โดยติดเชื้อใหม่ 1,735 คน ติดเชื้อจากตรวจ ATK อีก 2,425 คน หายป่วยเพิ่ม 2,138 คน เหลือรักษาตัวในระบบ 22,895 คน อาการหนัก 610 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 286 คน และมีผู้เสียชีวิต 15 คน

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุยังเดินหน้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น โดยรอ WHO ประกาศก่อน แต่คาดว่าหลัง 1 กรกฎาคม ไทยจะพ้นการระบาดใหญ่ โรคไม่รุนแรง และควบคุมได้ตามแผนที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ได้เป็นคลื่นเล็ก ๆ และไม่รุนแรง