พบปืนกราดยิงชาวบ้าน เป็นปืนใช้ในราชการ จ.พัทลุง

เช้านี้ที่หมอชิต - ที่จังหวัดพัทลุง ตำรวจตรวจสอบพบว่าปืนที่คนร้ายใช้กราดยิงบ้านเพื่อนบ้านหลังไม่จ่ายค่าเสียหายรถเฉี่ยวชน เป็นปืนในราชการ เร่งสั่งสอบหาที่มาถูกขโมยหรือจงใจนำมาขาย ติดตามจากรายงานของคุณมะลิ แซ่ฉิ่น

นี่เป็นภาพขณะที่คนร้ายใช้ปืนเอ็ม 16 ซึ่งเป็นอาวุธสงครามกราดยิงเข้าใส่บ้านของชาวบ้านในพื้นที่อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ผ่านมา 1 สัปดาห์ ตำรวจแกะรอยจนพบว่าคนร้าย หลบไปพักบ้านญาติในพื้นที่จังหวัดพัทลุง รวมถึงเกาะแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงตามไปรวบตัวมาได้ พร้อมของกลางปืนเอ็ม 16 และเครื่องกระสุน

สอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับโกรธที่ผู้เสียหายไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายจากการขับรถมาเฉี่ยวชน ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย ทวงถามไปหลายรอบก็ยังนิ่งเฉย จึงตัดสินใจนำอาวุธปืนไปกราดยิงใส่บ้านพัก

งานนี้ตำรวจขยายผลหาแหล่งที่มาของอาวุธสงครามดังกล่าว พบว่าเป็นปืนที่ใช้ในราชการ แม้จะมีการขูดเลขและรหัสประจำปืนออกแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีร่องรอยของสัญลักษณ์ซึ่งเป็นตราโล่

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่าต้องเร่งขยายผลว่าอาวุธปืนดังกล่าว ได้มาอย่างไร เป็นการขโมยปืนราชการออกมาขาย หรือเจ้าหน้าที่รัฐจงใจนำปืนออกมาขายเอง ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาสอบสวนอย่างน้อยสองสัปดาห์

นอกจากนี้ ยังให้ตำรวจออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคนที่ให้แหล่งพักพิงแก่ผู้ต้องหาต้องได้รับโทษตามกฏหมายด้วย เพราะนี่ถือเป็นการร่วมกระทำผิดในรูปแบบหนึ่ง

และเมื่อย้อนไปดูสถิติการกวาดล้างอาวุธปืนในพื้นที่จังหวัดพัทลุง พบว่าตั้งแต่ 1 ตุลาคม - 26 มิถุนายน 2565 ตำรวจสามารถตรวจยึดอาวุธปืนสงคราม 24 กระบอก จากผู้ครอบครอง 18 คน อาวุธปืนสั้นและยาว 381 กระบอก จากผู้ครอบครอง 319 คน รวมทั้งหมด 405 กระบอก และเครื่องกระสุน 4,580 นัด

เหตุใดพื้นที่พัทลุง จึงมีอาวุธปืนที่ไม่ถูกกฎหมายมากมายขนาดนี้ และหลายคดีที่เกิดขึ้นล้วนเป็นคดีอุกฉกรรจ์และใช้อาวุธสงครามเป็นทูตสังหาร เป็นเรื่องท้าทายการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากนี้ต้องเฝ้าติดตามกันต่อไปว่าการกวาดล้างอย่างเอาจริงเอาจังจะแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่