คนขับแท็กซี่เมากร่าง ขับรถชนรถตำรวจ จ.สมุทรปราการ

เช้านี้ที่หมอชิต - ชายอายุ 39 ปี โชเฟอร์แท็กซี่เมากร่าง ขับรถแท็กซี่พุ่งชนรถตำรวจ อีกทั้งยังท้าเป่าวัดตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ หลังเป่าเสร็จพบว่าสูงถึง 184 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

นี่เป็นภาพจากกล้องหน้ารถของ เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 บันทึกภาพขณะที่สิบตำรวจตรี พงษ์พรรณ พลชัย ตำรวจ สภ.ท่าอาศยานสุวรรณภูมิ ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามรถแท็กซี่ เขียว-เหลือง คันหนึ่ง จนกระทั่งมาจอดที่ป้ายรถโดยสารประจำทาง หน้ามหาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และขับรถพุ่งชนกับรถจักรยานยนต์ของสิบตำรวจตรี พงษ์พรรณ จนล้มลง

เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 เห็นท่าไม่ดี จากที่ขับรถของตัวเองเลยไปแล้ว ก็วกกลับมาช่วยเหลือสิบตำรวจตรี พงษ์พรรณ อีกครั้ง พบว่าคนขับรถแท็กซี่กำลังจะทำร้ายสิบตำรวจตรี พงษ์พรรณ อีกทั้งยังพูดจาท้าทายตำรวจอีกด้วย

สิบตำรวจตรี พงษ์พรรณ พลชัย เปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองออกเวร กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับห้องพัก พอมาถึงถนนเทพรัตน ขาออก ช่องทางคู่ขนานกิโลเมตรที่ 17 พบรถแท็กซี่คันดังกล่าว ขับส่ายไปส่ายมาคล้ายกับคนเมาสุรา ด้วยความที่เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้รถใช้ถนน จึงเรียกให้จอดเพื่อขอตรวจสอบ แต่คนขับรถแท็กซี่กลับหลบหนี อีกทั้งยังกร่างขับรถพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของตนเอง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 เข้ามาระงับเหตุได้ทัน ไม่งั้นแท็กซี่คันนี้คงไม่ชนแค่รถจักรยานยนต์แน่

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ภายในรถแท็กซี่คันดังกล่าวพบขวดแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งของเกาหลี (โซจู) วางอยู่ที่เบาะด้านซ้าย และข้างประตูฝั่งคนขับ นอกจากนั้น ยังพบอุปกรณ์สำหรับเสพกัญชาวางคู่กันอีกด้วย ตำรวจจึงควบคุมตัวไปเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ พบว่าขึ้นสูงถึง 184 มินลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงควบคุมตัวเพื่อไปดำเนินคดี แต่เจ้าตัวขัดขืนและร้องขอให้แม่ค้าละแวกนั้นช่วยเหลือ โดยอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งจากตำรวจ แต่สุดท้ายก็ต้องหน้าซีดเมื่อรู้ตัวว่าหนีไม่พ้น