โอไมครอนสายพันธุ์ BA.4 - BA.5 แพร่เชื้อเร็ว คาดอาจเป็นสายพันธุ์หลัก กรกฎาคม 2565 นี้

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ผ่าน blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" ถึงสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 ในปัจจุบัน โดยมีข้อความว่า "โอไมครอน" BA.5 เป็นไวรัสสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดเร็วที่สุดในขณะนี้ กำลังจะเป็นสายพันธุ์หลักของไทย ส่วนความรุนแรงยังไม่สรุป

ล่าสุด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขติดโควิดแล้ว แม้ฉีดวัคซีนไปถึง 6 เข็ม ยังต้องระมัดระวังกันต่อไป สถานการณ์โควิดของไทย แม้จะอยู่ในช่วงขาลงและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ก็ยังคงมีข้อควรระวัง และต้องตระหนักในการดูแลตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิดระลอกย่อยเพิ่มขึ้นมาอีก ซึ่งมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้จากปัจจัยความเสี่ยงดังนี้

1) ไวรัสของไทยในขณะนี้เกือบ 50% เป็นโอไมครอนสายพันธุ์ใหม่ (BA.4,BA.5) ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดได้เร็วกว่าเดิม 19-35%

2) จำนวนผู้รับวัคซีนเข็ม 3 ซึ่งจะสามารถรับมือกับโอมิครอนได้ในระดับหนึ่ง ส่วนวัคซีน 2 เข็มไม่เพียงพอนั้น ขณะนี้มีผู้รับเข็ม 3 ไปเพียง 42% ยังไม่ถึงเกณฑ์ระดับ 60-70% ที่จะทำให้เกิดการป้องกันหมู่ได้

3) เริ่มมีผู้ใส่หน้ากากน้อยลง ในกิจกรรมเสี่ยง สถานที่เสี่ยง เนื่องจากมีการผ่อนคลายว่าให้ใส่โดยสมัครใจ สาธารณะบางส่วนเข้าใจผิดว่า สถานการณ์ดีขึ้นจนไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยแล้ว

วันนี้ได้มีรายงานข่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทยติดโควิดแล้ว โดยมีอาการเล็กน้อยคือ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ระคายคอ ผลการตรวจเอทีเคเป็นบวก

แม้รัฐมนตรีได้ฉีดวัคซีนไปมากถึง 6 เข็มคือ SV-SV-AZ-AZ-PZ-PZ ก็ยังสามารถติดได้

เพราะการฉีดวัคซีนนั้นต้องใส่หน้ากาก และระมัดระวังกิจกรรมเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยงไปด้วยพร้อมกัน จึงจะได้ผลดีมาก

แต่ถ้าเข้าไปอยู่ในสถานที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง แม้ฉีดวัคซีนแล้ว ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อ ถ้าไม่ใส่หน้ากากอนามัยก็จะยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น แต่อาการมักจะไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน

ดังนั้น ในสถานการณ์ของไทยปัจจุบัน ซึ่งเรามีไวรัสสายพันธุ์ BA.4,BA.5 เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อ มีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะป้องกันหมู่

จึงสมควรอย่างยิ่ง ที่ทุกคนควรจะตระหนักและระมัดระวัง โดยใส่หน้ากากอนามัยกันต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีไปร่วมกิจกรรมเสี่ยง ในสถานที่เสี่ยง และถ้าตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยง และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือรับไม่ครบ 3 เข็ม ควรเร่งรับวัคซีนเข็มที่ 3 ต่อไปโดยเร็ว 

ทั้งนี้เพื่อป้องกันทั้งตนเองและครอบครัว ตลอดจนจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยในภาพรวมด้วย ทำให้สถานการณ์โควิดขาลงของไทยเราสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ให้เกิดสถานการณ์ย้อนถอยหลังกลับ ซึ่งจะเป็นผลเสียกับทุกคนอีกครั้ง

BUGABOONEWS
ขอบคุณข้อมูลจาก blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย