เครื่องบินรบทหารเมียนมา รุกล้ำเขตแดนไทย ชาวบ้านแตกตื่น หนีเข้าหลุมหลบภัย

เช้านี้ที่หมอชิต - ตลอด 5 วัน สถานการณ์การสู้รบของทหารเมียนมา และทหารกะเหรี่ยง รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ วันก่อนมีกระสุนไม่ทราบชนิด ไม่ทราบฝ่าย ข้ามมาตกในพื้นที่ไทย ล่าสุดเมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) ทหารเมียนมาได้ส่งเครื่อบบินรบล้ำแดนเข้ามาเขตไทย 4-5 กิโลเมตร ทำเอาชาวบ้านแนวชายแดนแตกตื่น

เครื่องบินรบทหารเมียนมา รุกล้ำเขตแดนไทย ชาวบ้านแตกตื่น หนีเข้าหลุมหลบภัย
นี่เป็นคลิปวิดีโอที่ชาวบ้านสามารถบันทึกไว้ได้ เป็นภาพขณะที่เครื่องบินรบเมียนมา บินล้ำเข้ามาในเขตดินแดนประเทศไทย ที่ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ตรงข้ามกับพื้นที่สู้รบ โดยเครื่องบินรบเมียนมาได้รุกล้ำเข้าในเขตแดน 4-5 กิโลเมตร จนชาวบ้านสามารถมองเห็นได้ในระยะใกล้ ซึ่งได้บินอยู่ประมาณ 4 รอบ คาดว่าเครื่องบินลำดังกล่าวจะบินเพื่ออ้อมไปยิงจรวดใส่ที่ฝ่ายตรงข้าม (ทหารกระเหรี่ยง เคเอ็นยู)

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวไทยและชาวเมียนมา ที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนแตกตื่น และต้องหลบหนีภัยอย่างเร่งด่วน ชาวบ้านที่มีหลุมหลบภัยในบ้าน ก็หนีไปหลบในหมู่บ้าน ขณะที่ทางโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ใต้ ได้ประกาศฉุกเฉินให้ผู้ปกครองรับบุตรหลานกลับบ้าน และโรงเรียนประกาศหยุดเรียนทันที เนื่องจากเครื่องบินรบทหารเมียนมาล้ำแดนเข้ามาผ่านหลังคาอาคารเรียนของโรงเรียน ขณะที่โรงเรียนบ้านวาเล่ย์เหนือ ได้กดออดให้สัญญาณนักเรียนหนีเข้าไปยังอาคารหลุมหลบภัยของโรงเรียน และยังมีชาวบ้านไปร่วมด้วย

ชาวบ้าน บอกว่า การสู้รบที่ผ่านมาหลายวัน เครื่องบินของทหารเมียนมาไม่เคยล้ำมาน่านฟ้าเขตไทย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ล้ำเข้ามา ขณะที่บางคนบอกว่า เครื่องบินทหารเมียนมาบินเข้ามาในหมู่บ้านต่ำมาก ใกล้กับหลังคาบ้านจนน่ากลัว ทำให้ราษฎรไทยแตกตื่นกลัว

ทอ.ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 สกัดการล้ำน่านฟ้า
จากนั้นกองทัพอากาศ ได้รายงานการตรวจพบอากาศยานบินล้ำแดนบริเวณอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ก่อนเป้าหมายจะจางหายไปจากระบบเรดาร์เฝ้าตรวจการณ์ของกองทัพอากาศในเวลาต่อมา และยังตรวจพบเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติภารกิจอยู่ห่างจากแนวชายแดนบริเวณดังกล่าว ระยะทางประมาณ 5 ไมล์ทะเล แต่ไม่ได้ล้ำแดนมายังพื้นที่ประเทศไทยแต่อย่างใด

กองทัพอากาศ จึงได้มีคำสั่งให้เครื่องบินขับไล F-16 จำนวน 2 เครื่อง ขึ้นบินลาดตระเวนรบทางอากาศทันที บริเวณแนวชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก และได้สั่งการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศ ประจำสถานเอกอัครทูต ณ ย่างกุ้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อแจ้งเตือนและหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต

กองทัพอากาศ จะติดตามความเคลื่อนไหวสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงพื้นที่ตามเขตแนวชายแดน ตลอด 24 ชั่วโมง

ชาวกะเหรี่ยงกว่า 1,000 คน อพยพเข้าไทย  หลังการโจมตีทางอากาศ
ภายหลังทหารเมียนมาส่งเครื่องบินยิงจรวดใส่ฝ่ายต่อต้าน ที่บริเวณบ้านวาเล่ย์ใต้ และบ้านวาเล่ย์เหนือ ตรงข้ามตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตากแล้ว ทำให้มีผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงสัญชาติเมียนมากว่า 1,000 คน ทะลักเข้ามายังเขตไทยทั้ง 2 หมู่บ้าน โดยฝ่ายทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อำเภอแม่สอด ได้นำผู้ลี้ภัยไปไว้ยังวัดในหมู่บ้านวาเล่ย์เหนือ เช่นเดียวกันจากการโจมตีทางอากาศของทหารเมียนมานั้น ทำให้กระสุนตกบริเวณในไร่ปาล์มของชาวบ้าน และพบรถกระบะซึ่งจอดอยู่ในสวนได้รับความเสียหาย ด้านแถบข้างขวาคนขับ ทหาร ตำรวจ ผู้นำหมู่บ้าน ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ความเสียหายเบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินได้