เปิดคำสารภาพ มือฆ่าหญิงอายุ 55 ปี ในบ้านกลางสวนอินทผลัม จ.กาญจนบุรี
ข่าวอาชญากรรม 1 กรกฎาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - ความคืบหน้าคดีโหดเหี้ยมที่คนร้ายใช้มีดกระหน่ำแทงหญิงอายุ 55 ปี เสียชีวิตอยู่ในบ้านพักกลางสวนอินทผาลัมที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยเหตุการณ์นี้เกิดช่วงกลางดึกวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจตามจับคนร้ายได้แล้ว โดยอ้างว่าที่ลงมือก่อเหตุเพราะแค้นแทนน้าชายที่เลิกรากับผู้เสียชีวิตไปโดยไม่ได้ทรัพย์สมบัติติดตัวไปเลยแม้แต่อย่างเดียว
ผู้เสียชีวิตในคดีนี้ชื่อ นางน้อย อายุ 55 ปี สัญชาติเมียนมา ถูกพบเป็นศพถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าตามร่างกายหลายแห่ง นอนเสียชีวิตอยู่ในบ้านหลังหนึ่งอยู่กลางสวนอินทผาลัม ในพื้นที่ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพไม่พบถูกล่วงละเมิดทางเพศ
หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.หนองขาว ลงพื้นที่หาเบาะแสของคนร้าย โดยเริ่มจากสอบถามข้อมูลจากลูกชายของผู้เสียชีวิต ที่เล่าให้ฟังว่า จู่ ๆ คืนเกิดเหตุก็สะดุ้งตื่นนอน จึงทำให้เห็นคนร้าย เป็นชาย สวมหมวกแบบมีปีกปิดบังใบหน้ากำลังวิ่งออกจากบ้าน โดยตอนนั้นแทนที่คนร้ายจะรีบหลบหนีไป แต่กลับมาพุ่งเป้าพยายามจะใช้มีดแทงตนเอง แต่เคราะห์ดีที่เอาสียชีวิตรอดมาได้ ซึ่งจากเบาะข้อมูลที่ได้จากลูกชายของผู้เสียชีวิตนำไปสู่การนำตัวคนงานที่ทำงานอยู่ในสวนอินทผาลัม จำนวน 15 คน มาเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เพื่อสืบหาตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ กระทั่งในที่สุดตำรวจติดตามสืบสวนจนสามารถตามจับกุมคนร้ายได้แล้ว คือ นายซาง ไม่มีนามสกุล อายุ 39 ปี สัญาชาติเมียนมา ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของอดีตสามีของผู้เสียชีวิต โดยหลบหนีไปทำงานก่อสร้างอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อทราบข้อมูลเป็นที่แน่ชัดตำรวจชุดสืบสวนจึงตามไปควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.หนองขาว
โดยมี พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ที่ได้เดินทางลงพื้นที่มายัง สภ.หนองขาว ติดตามคดีนี้ด้วยตนเอง โดยเผยว่า จากการเค้นสอบ นายซาง ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าเป็นลงมือสังหารนางน้อยจริง โดยอ้างว่ามีมูลเหตุมาจากแรงแค้นแทนน้าชาย ที่อยู่กินกับผู้เสียชีวิตมานานกว่า 5 ปี แต่พอเลิกรากันไปผู้เสียชีวิตกลับไม่ยอมแบ่งทรัพย์สินใด ๆ ให้กับน้าชายแม้แต่อย่างเดียว เมื่อนายซางรู้เรื่องนี้จึงสงสารน้าชายมาก จนก่อตัวเป็นความแค้นและตัดสินใจวางแผนลงมือฆ่านางน้อย โดยเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ผู้ก่อเหตุได้ไปยืมรถจักรยานยนต์จากอดีตสามีของผู้เสียชีวิต จากนั้นขี่รถมาซ่อนตัวอยู่บริเวณไร่อ้อย ใกล้กับสวนอินทผาลัมที่เกิดเหตุ นั่งรอจนถึงช่วงกลางดึกจึงแอบเข้าไปในสวนอินทผาลัม แล้วเดินต่อไปบ้านที่ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ เฝ้าคอยมองจนถึงช่่วงที่ผู้เสียชีวิตเข้านอน แอบย่องเข้าไปในบ้าน เห็นผู้เสียชีวิตนอนหลับจึงใช้มีดที่พกติดตัวมาจ้วงแทงเข้าบริเวณลำคอ และตามลำตัวข้างซ้าย และเหนือราวนมข้างซ้าย รวม 5 แผล จนเสียชีวิต แต่ผู้ก่อเหตุคาดไม่ถึงว่าจังหวะนั้นลูกชายผู้เสียชีวิต ซึ่งพักอยู่บ้านใกล้กันจะเดินมาเห็นเหตุการณ์ จึงใช้มีดไล่แทง หวังปิดปาก แต่ลูกชายผู้เสียชีวิตวิ่งหนีรอดไปได้ เมื่อเห็นปลอดคนก็เข้าไปหยิบทรัพย์สินหลายรายการของผู้เสียชีวิตแล้วหลบหนีไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับผู้ก่อเหตุในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน รวมถึงจะได้ทำการสอบปากคำผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม เพื่อดูว่ามีผู้ร่วมลงมือวางแผน หรือให้การช่วยเหลือในระหว่างที่ผู้ก่อเหตุหลบหนีด้วยหรือไม่ หากพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องก็จะได้ขยายผลนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
