ลุ้นรัฐบาลเคาะมาตรการแก้ผลกระทบจาก พลังงาน-สินค้า ราคาแพง

เช้านี้ที่หมอชิต - ปัญหาพลังงาน และสินค้าโดยเฉพาะกลุ่มอาหารมีราคาแพง หลายคนบ่นว่า แพงทั้งแผ่นดิน เป็นวิกฤตพลังงานและอาหารที่ นายกรัฐมนตรี จะนั่งหัวโต๊ะ เคาะมาตรการแก้ไขในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ วันนี้ คงต้องรอลุ้นกันแบบห้ามกะพริบตา เพราะทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับเงินในกระเป๋าของพวกเรา

ก่อนไปสู่การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติวันนี้ เมื่อวาน คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็พาไปสำรวจตลาดบางเขน โดยกำเงินไปในมือไป 500 บาท เพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำเมนูแกงเขียวหวานเนื้อ, ผัดบล็อกโคลีกุ้งสด และ ไข่เจียว แต่สุดท้ายเงินก้อนนี้ก็ไม่พอเพราะจ่ายไปจริง ๆ เกือบ 600 บาท

ด้าน คุณกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็เปิดข้อมูลน้ำมันที่น่าสนใจ โดยเฉพาะค่าการกลั่น ได้หยิบยกราคาเมื่อเมษายนปี 2554 ซึ่งอยู่ที่ 1.7 บาทต่อลิตร แต่กรกฎาคมปีนี้ขยับถึง 6.8 บาทต่อลิตร ทั้ง ๆ ที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับเดียวกัน คือ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  
เป็นเหตุให้ราคาน้ำมันดีเซลหน้าปั๊มต่างกันถึง 5 บาทต่อลิตร ทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นการเก็บภาษีก็น้อยกว่าปัจจุบัน และไม่ต้องใช้กองทุนน้ำมันเข้ามาชดเชยมากเท่ากับวันนี้ด้วย ดังนั้น ข้ออ้างว่าค่าการกลั่นสูง เพราะราคานํ้ามันดิบสูงจึงไม่จริง และยังเสริมข้อมูลอีกว่า ค่าการกลั่นที่ราคาแค่บาทกว่า ๆ เมื่อปี 2554 โรงกลั่นกำไรดีทุกโรง

ด้าน คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บอกว่า วันนี้คงต้องจับตา 2-3 ประเด็น ที่เคยขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ คือ การตรึงราคาน้ำมันให้นานที่สุด หรือ รัฐบาลหาแหล่งซื้อน้ำมันราคาพิเศษ พร้อมกับขอให้ช่วยดูแลราคาค่าไฟฟ้าให้กลุ่มผู้ประกอบการ เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนไม่ต้องไปพึ่งวิธีการขึ้นราคาสินค้า จนกระทบผู้บริโภค

วิกฤตพลังงานและอาหารไม่ได้เกิดเฉพาะกับประเทศเรา แต่กระทบไปทั่วโลก จากสงครามรัสเซีย ยูเครน ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ รัฐบาลจะมีแผนรับมืออย่างไรในวิกฤตและความเสี่ยงมีโอกาสอะไรให้ไทยไขว่คว้าบ้าง ก็เป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่ผู้บริหารต้องเร่งหาคำตอบ ที่สำคัญ คือ ปากท้องประชาชนจะได้รับการดูแลอย่างไร ในวันนี้น่าจะมีคำตอบให้ได้เห็น