ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

เปิดคำอ้างมือฆ่านักเลงประจำถิ่น เสียชีวิตกลางถนน จ.ตรัง

ข่าวอาชญากรรม 5 กรกฎาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - เกิดเหตุนองเลือดกลางถนนหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่จังหวัดตรัง โดยชายที่ก่อเหตุอ้างว่าเพราะพฤติกรรมของผู้เสียชีวิตที่มักทำตัวเป็นนักเลงประจำถิ่น หาเรื่องระรานทำลายข้าวของเพื่อนบ้านไปทั่ว จนมาคราวนี้เหลืออดเข้าแย่งมีดพร้าฟันร่างอีกฝ่าย จนสิ้นใจต่อหน้า

เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. คืนวานนี้ (4 ก.ค.) ตำรวจ สภ.เมืองตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง และแพทย์เวรโรงพยาบาลตรัง ร่วมลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บนถนนสายทุ่งนา-นาพลุ หมู่ 12 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง โดยพบร่างผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นชายอายุ 30 ปี ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลเหวอะหวะถูกฟันด้วยอาวุธมีคมหลายแห่ง และห่างจากจุดที่พบศพไปเล็กน้อยพบมีดพร้าสภาพเปื้อนเลือด และหนังสติ๊กอีก 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ขณะเดียวกันยังพบชายอายุ 51 ปี ยืนรอมอบตัวกับตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมกับรับสารภาพว่า "เขานี่แหละที่เป็นคนลงมือฆ่าชายอายุ 30 ปี" อ้างว่าเหลืออดกับพฤติกรรมของชายคนนี้ เนื่องจากที่ผ่านมามักหาเรื่องระราน ทำลายข้าวของของตนบ่อยครั้ง บอกเตือนเท่าไรก็ไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้น โดยก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.00 น. ชายอายุ 30 ปี เข้ามาที่บ้านแล้วเปิดฉากหาเรื่องก่อน เริ่มจากนำก้อนหินมาขว้างใส่บ้าน แถมยังพูดจาท้าทายด่าพ่อล่อแม่ แต่ชายอายุ 51 ปี ผู้ก่อเหตุ ก็พยายามข่มความรู้สึกเอาไว้เพราะไม่อยากมีเรื่องด้วย แต่เรื่องไม่จบเวลาประมาณ 20.00 น. ชายอายุ 30 ปี ผู้เสียชีวิต ย้อนกลับมาระรานอีกรอบ คราวนี้นำหนังสติ๊กมารัวยิงใส่กระจกบ้าน พร้อมกับใช้มีดพร้าฟันประตูบ้าน อีกทั้งพูดท้าทายยั่วยุตนตลอดเวลา ทำให้หมดความอดทนเข้าไปแย่งมีดพร้าจากมือของอีกฝ่ายมาได้ ก็ใช้กระหน่ำฟันแบบไม่ยั้ง  

ซึ่งนี่ก็เป็นคำพูดเพียงฝ่ายเดียวของผู้ก่อเหตุเท่านั้น คนเสียชีวิตไปแล้วพูดตอบโต้อะไรไม่ได้ โดยเมื่อคืนพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ได้ควบคุมตัวชายอายุ 51 ปี เอาไว้เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดก่อนพิจารณาแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป 

นายโสธร เยาวกุล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 เล่าเสริมอีกว่า ตนรู้จักกับชายอายุ 30 ปี ผู้เสียชีวิต มาตั้งแต่เด็ก โดยอาศัยอยู่กับตายายและแม่ แต่เมื่อสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิตจากไปหมด ทำให้ชายอายุ 30 ปี ต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยว ซึ่งตนคิดว่าน่าจะสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีปมในใจ ทำให้เกิดพฤติกรรมระรานหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว กระทั่งมาเกิดเหตุสลดดังกล่าว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark