ค่ารักษาโรคซึมเศร้าและไบโพลาร์ เบิกได้ตามสิทธิ
ข่าวสังคม 7 กรกฎาคม 2565 - ข่าวดึก 7HD - กรมสุขภาพจิต แนะนำการรักษาโรคซึมเศร้า และไบโพลาร์ เบิกจ่ายได้ตามสิทธิการรักษาพยาบาล ที่ทุกคนมีอยู่ ไม่ได้มีค่ารักษาที่แพงมากอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว กรณี ยัวบอย ทีเจ โพสต์ไอจีว่าเสียค่ารักษา 600,000 บาท หลังไปรักษากับสถานพยาบาลเอกชน
ก่อนหน้านี้ บอย ทีเจ หรือ เต๋า จิรายุทธ ผโลประการ โพสต์ภาพข้อความในอินสตาแกรมว่า "ค่ารักษาพยาบาล 6 แสน ไม่ต้องรักษาก็ได้นะ ถ้าจะแพงขนาดนี้ ปล่อยไปตามทางเถอะ"
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ระบุว่า ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและไบโพลาร์ สามารถเบิกจ่ายได้ในระบบหลักประกันสุขภาพ ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยเลือกใช้บริการทางเลือกกับคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชน เพื่อความสะดวกสบายก็เป็นทางเลือก จะมีค่าใช้จ่ายเสริม ค่าบริการเสริม และระดับราคาห้องพักรักษา ที่คนไข้เลือกได้ ในการเข้ารับบริการ
แต่การรักษากับภาครัฐ ก็ได้เพิ่มบริการอำนวยความสะดวก ในการรักษาให้ผู้ป่วยคลายความกังวล ทั้งการให้คำปรึกษา โทรสายด่วน 1323 หรือการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลของรัฐ ก็มีกระบวนการบำบัดรักษา ให้การปรึกษา รับฟัง ตามวิธีจิตบำบัด รักษาอาการเจ็บป่วยของจิตใจ เรื่องค่ารักษาพยาบาล ส่วนใหญ่ก็จะครอบคลุมอยู่ในสิทธิการรักษาพยาบาล หรือมีส่วนต่าง แต่ไม่มาก เป็นรายกรณีไป ขึ้นอยู่กับอาการที่ซับซ้อน เรื้อรัง หรือมีหลายโรคร่วมแตกต่างกันไป แต่ขอให้คนไข้เชื่อมั่นว่า จะให้การรักษาทางจิตเวช โดยไม่มีเรื่องของเงินทองมาเป็นอุปสรรค
เช่นเดียวกับ นายแพทย์วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกกับประเด็นค่ารักษาแพง เพราะความจริงแล้ว การจะไปรักษาที่โรงพยาบาลไหน ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ป่วย ความต้องการรักษาโดยระบุจิตแพทย์ ที่ส่วนใหญ่แล้ว จิตแพทย์ของโรงพยาบาลเอกชน ก็มาจากโรงพยาบาลของภาครัฐเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม การรักษากับโรงพยาบาลเอกชน ก็เป็นทางเลือก แต่ก็ควรสอบถามค่ารักษาพยาบาลก่อนทุกครั้ง ค่อยตัดสินใจว่าจะรักษาหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง
ในส่วนของบริการรักษาคนไข้ที่เจ็บป่วยทางจิตใจ อย่างเช่น โรงพยาบาลศรีธัญญา หรือจะเป็นสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ต่างก็มีความพร้อมที่จะรับรักษาผู้ป่วยจิตเวช และได้ปรับสถานที่ และการบริการ ให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายมากขึ้นแล้วในขณะเข้ารับการรักษา
