โต้กันไม่หยุด หาจุดลงตัวไม่ได้ ปมลดค่าการกลั่น

เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องของราคาน้ำมันยังเป็นปัญหาในเชิงโครงสร้างราคาที่โต้กันไม่เลิก ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าควรลดค่าการกลั่น และค่าการตลาด ขณะที่ภาครัฐ ยังมองว่าราคายังอยู่ในกรอบที่ภาครัฐดูแลอยู่ แต่ที่ต้องติดตามกันใกล้ชิดคือ ราคาน้ำมันโลกเริ่มลดลง จะส่งผลให้ราคาหน้าปั๊มลดลงด้วยหรือไม่

ยังเกาะติดเรื่องโครงสร้างราคาน้ำมันไม่เลิก สำหรับคุณกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลังออกมากระตุกแรง ๆ เกี่ยวกับค่าการกลั่น ที่สร้างกำไรให้กับโรงกลั่นน้ำมันอย่างมาก พร้อมข้อเสนอหั่นค่าการกลั่น นำเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ และออกกฎหมายเก็บภาษีลาภลอย จนทำให้รัฐบาลต้องออกโรงเจรจากับโรงกลั่นน้ำมันทั้ง 6 แห่ง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไร้ข้อสรุป

ล่าสุด โพสต์เฟซบุ๊ก เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ไขลานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้ทำหน้าที่ดูแลประชาชน ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาสังคมกดดันให้ลดค่าการกลั่น ต้นเหตุทำให้น้ำมันแพง ของแพง แต่ก็ไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา ปล่อยให้ผู้ขายน้ำมันเพิ่มค่าการตลาด ซึ่งก็คือรายได้ของผู้ค้าน้ำมัน ในกรณีของเบนซินขึ้นมาสูงเกินมาตรฐานปกติอย่างมาก

โดยยกตัวอย่างค่าการตลาดของวันที่ 5 กรกฎาคมพบว่า ค่าการตลาด Gasohol95 E10 สูงถึง 3.42 บาทต่อลิตร ส่วน Gasohol 91 อยู่ที่ 3.62 บาทต่อลิตร ทั้ง ๆ ที่ ค่าการตลาดไม่ควรเกิน 2 บาท และที่น่าสนใจคือ หากเทียบกับวันที่ พรรคกล้า ออกมากระทุ้งรัฐบาลครั้งแรก 10 มิถุนายน ราคาน้ำมันที่รับจากโรงกลั่นน้ำมันถูกลง แต่ราคาหน้าปั๊มยังอยู่ในระดับเดิม คำถามคือแทนที่คนไทยจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ถูกลง กลายเป็นผู้ค้าเอาไปเป็นรายได้ของตนเอง ซึ่งผู้ค้าใหญ่สุดก็คือ ปตท. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร

เรื่องราคาน้ำมัน คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า กรณีราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดกว่า 10 เหรียญฯ แต่ราคาหน้าปั๊มยังไม่ลงได้ทันที เพราะมีภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เข้าไปชดเชยราคาในช่วงที่ผ่านมา ต้องแบ่งเบาภาระกองทุนน้ำมันก่อน

ส่วนเรื่องค่าการกลั่น และค่าการตลาด ก็มีผู้ออกมาอธิบายเช่นกัน คือ คุณสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่าในการพิจารณาค่าการตลาดควรดูในภาพรวมของทุกชนิดน้ำมัน เพราะสถานีบริการไม่ได้จำหน่ายน้ำมันเพียงชนิดเดียว และไม่ควรเปรียบเทียบค่าการตลาดเป็นรายวัน เพราะราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงขึ้นลงทุกวันตามราคาตลาดโลก

ทั้งนี้ หากพิจารณาค่าการตลาดโดยรวมของสถานีบริการ เฉลี่ยของทุกชนิดน้ำมันทั้งเบนซิน และดีเซล ตั้งแต่วันที่ 1-6 กรกฎาคม 2565 อยู่ที่ 2.17 บาทต่อลิตร ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของปี 2564 ทั้งปี ซึ่งอยู่ที่ 2.14 บาทต่อลิตร และอยู่ในกรอบที่ภาครัฐติดตามดูแล คือ 40 สตางค์ - 2 บาท

ขณะที่ราคาน้ำมันยังไม่มีทีท่าว่าจะลด รถยนต์ไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ถูกมองหา เมื่อวานนี้มีภาพน่ารัก ๆ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทดลองขับรถ EV ของเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย ที่ใช้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะอำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ด้วย เพราะเห็นว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญ และสนับสนุนรถ EV พร้อมกับเชิญนายกรัฐมนตรีทดลองนั่ง และทดลองขับรถคันดังกล่าวด้วยตัวเอง ในช่วงของการทดลองขับนี้เอง นายกรัฐมนตรีได้ขับวนรอบหน้าตึกไทยคู่ฟ้า แบบช้า ๆ และในช่วงที่ขับผ่านห้องสื่อมวลชนที่อยู่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ก็ได้โบกมือ ทักทายกลุ่มผู้สื่อข่าว ก่อนจะขับขึ้นไปด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ส่งเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เดินทางกลับ