ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ตีตรงจุด : ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด่วน หลังโควิด-19 รุกหนัก

เช้านี้ที่หมอชิต - ตีตรงจุด วันนี้ปักหมุดสถานการณ์ร้อน วัคซีนเข็มกระตุ้น กลายเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลับมาอยู่ในภาวะขาขึ้นอีกครั้ง ล่าสุดเฉพาะโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ทั้งครูและนักเรียน ติดเชื้อมากถึงกว่า 800 คน

การติดเชื้อของนักเรียนจำนวนมากถึง 688 คน และครูอีก 70 คน ทำให้โรงเรียนประกาศเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอนช่วงวันที่ 11-19 กรกฎาคม เป็นระบบออนไลน์ และจะกลับมาสอนตามปกติวันที่ 20 กรกฎาคม พร้อมขอความร่วมมือผู้ปกครองยกเลิกแผนเดินทางช่วงวันหยุดยาว 13-17 กรกฎาคม เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อด้วย 

และไม่ใช่แค่ที่นี่เท่านั้นที่ต้องหันพึ่งการเรียนออนไลน์ ยังมีโรงเรียนอีกหลายแห่งประสบปัญหานี้ไม่แตกต่างกัน

วันนี้ต้องติดตามว่า ศบค.จะทบทวนเรื่องมาตรการสวมหน้ากากอนามัย ที่ผ่อนคลายไปก่อนหน้านี้หรือไม่ และจะลดวันกักตัวเหลือ 5+5 ตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุขหรือเปล่า ส่วนประชาชนอย่างเรา ๆ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ ต้องรีบไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเร็วที่สุด

มีคำเตือนจาก คุณหมอธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสนอข้อมูลวิชาการ ระบุว่า สมรรถนะของ Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.5 แพร่ไวกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้าอย่าง BA.1 และ BA.2 ถึง 7.5 เท่า และยังดื้อต่อยาแอนติบอดี้ที่ใช้ในการรักษาด้วย

ช่วงนี้คนจำนวนมากติดเชื้อกันรัว ๆ โดยเฉพาะในครอบครัว และที่ทำงาน มีทั้งที่รอดมาทุกซีซั่น แต่มาติดรอบนี้ หรือแม้แต่คนที่เคยติดเชื้อมาก่อนก็ติดเชื้อซ้ำ เตือนประชาชนจำเป็นต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม ใครที่ฉีดเข็ม 3 ไปแล้วนานกว่า 4-5 เดือน ถ้าต้องใช้ชีวิตพบปะคนอื่น มีอาชีพเสี่ยง หรือเป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว ก็ควรฉีดเข็มที่ 4 และการสวมหน้ากากเมื่ออยู่นอกบ้านยังจำเป็นอยู่ ไม่อยากติดเชื้อและเสี่ยงภาวะลองโควิด ต้องห้ามลดการ์ดเด็ดขาด

และอย่างที่คุณหมอบอกว่ารอบนี้ แม้แต่คนที่รอดมาหลายซีซัน ก็หลบไม่พ้น เช่นเดียวกับคุณขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม. ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนผู้ว่าฯ ชัชชาติ ตรวจโควิด-19 ทุกวัน ยังรอด

แต่โควิด-19 ก็ยังร้ายแบบไม่เกรงกลัวใคร ล่าสุด ผู้นำกองทัพบก ติดกันยกแผง ไล่ตั้งแต่ท่าน ผบ.ทบ. พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ไปจนถึงคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงกองทัพบก จำนวน 6 คน หลังกลับจากการไปเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของผู้บัญชาการทหารบกมาเลเซีย เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

และที่ไม่รอดในซีซั่นนี้อีกคนหนึ่งคือ คุณพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ถือเป็นรัฐมนตรีคนที่ 7 ในรัฐบาลชุดนี้ที่ได้ต้อนรับโควิด-19

ระดับผู้ใหญ่ที่เพิ่งติดเชื้อโควิด-19 ที่เรากล่าวถึงไปเมื่อสักครู่ เชื่อว่ามีการฉีดวัคซีนกันไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เข็ม แม้จะไม่สามารถหยุดยั้งการติดเชื้อได้ แต่ที่ได้ผลแน่ ๆ คือ ลดความรุนแรงของอาการเจ็บป่วย

ขณะที่ คุณหมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เผยกรณีผู้ติดเชื้อโควิด 3 รอบ จากเชื้อโควิด 3 สายพันธุ์ ทั้งที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

คุณหมอเล่าว่า มีผู้ป่วยหญิงอายุ 52 ปี ปกติแข็งแรงดี มีโรคประจำตัวคือปวดข้อ และมีผื่น แต่ไม่รุนแรง สงสัยเป็นโรคภูมิแพ้ตนเอง SLE กินยาสเตียรอยด์ เพรดนิโซโลน ขนาดต่ำ 5 มิลลิกรัม วันละครั้ง

ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรก วันที่ 18 เมษายน 2564 มีอาการแสบคอ ครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ ไอ เอกซเรย์สงสัยปอดอักเสบ ยืนยันโควิดด้วยการตรวจ RT-PCR ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ อาการดีขึ้น ติดเชื้อครั้งนั้นคงเป็นเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา หลังจากติดเชื้อครั้งแรก ผู้ป่วยฉีดวัคซีนทั้งหมด 3 เข็ม ซิโนแวค แอสตราเซเนกา และไฟเซอร์ เข็มสุดท้ายเมื่อเดือนมกราคม 2565

ติดเชื้อโควิดครั้งที่ 2 เมื่อ 31 มีนาคม 2565 มีอาการแสบคอ ปวดเมื่อยตัว ไม่มีไข้ ไม่ไอ และตรวจยืนยันโควิดด้วยวิธี RT-PCR แต่ไม่ได้กินยาต้านไวรัส หายเอง และครั้งนี้คงเป็นเชื้อโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2

ส่วนติดเชื้อครั้งที่ 3 ต้นเดือนกรกฎาคม 2565 มีอาการเจ็บคอ ปวดเมื่อยตัว มีน้ำมูกเล็กน้อย ไม่ไอ ไม่มีไข้ ตรวจยืนยันโควิดด้วยการตรวจ RT-PCR ไม่ได้กินยาต้านไวรัส อาการกำลังดีขึ้น ครั้งนี้คงเป็นการติดเชื้อโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.5

ซึ่งผู้ป่วยคนนี้ คุณหมอเล่าว่า เป็นผู้ช่วยพยาบาล ทำงานที่ห้องฉุกเฉิน ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิดตลอดเวลา และจากที่กินยาสเตียรอยด์ด้วยนั้น ภูมิคุ้มกันโรคจึงไม่ดีเหมือนคนทั่วไป ทำให้ติดเชื้อแล้วติดเชื้ออีกถึง 3 ครั้ง แม้จะฉีดวัคซีนครบโดสได้เข็มกระตุ้นแล้วก็ตาม

หลังหายป่วยครั้งนี้ ต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นชนิด mRNA อีก 1 เข็ม สะท้อนได้ว่าเชื้อนี้แพร่กระจายเร็ว และหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนได้มากกว่าสายพันธุ์เดิมก่อนหน้านี้

วันนี้ สถานีกลางบางซื่อ ก็เปิดรับลงทะเบียนฉีดเข็ม 6 เริ่มฉีดจริงวันที่ 11-31 กรกฎาคม โดยผู้มีสิทธิฉีดไล่ตั้งแต่เข็ม 3 ไปจนถึง 6 นั้น

แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า เข็ม 3 ทุกกลุ่มอายุ ขณะนี้เพิ่งฉีดได้ราว 43 % เท่านั้นจากเป้าหมาย 60 % ในการก้าวสู่โรคประจำถิ่น และขณะเดียวกันมีคนกว่า 20 ล้านคนก็ครบเกณฑ์ต้องฉีดเข็มกระตุ้น การมาเร่งเปิดให้ฉีดเข็ม 6 แบบนี้ เพราะวัคซีนใกล้หมดอายุหรือไม่ และอาจกระทบผู้ที่ควรจะฉีดจริง ๆ ก็มีคำยืนยันจากคุณหมอ กรมควบคุมโรค ว่า วัคซีนไม่หมดอายุ และจะไม่กระทบผู้ที่ควรจะได้รับเข็มกระตุ้นอย่างแน่นอน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark