ครูสมสง่า คว้าเหรียญทองแรก กรีฑาผู้สูงอายุชิงแชมป์โลก 2022
เช้านี้ที่หมอชิต - อดีตครูวิทยาศาสตร์ อายุ 68 ปี จากจังหวัดหนองบัวลำภู คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้กับคนไทย จากกีฬากระโดดไกล ในการแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงแชมป์โลก 2022
นี่เป็นคลิปนาทีที่เพลงชาติไทยดังกระหึ่ม ไปทั่วทั้งสนามแทมเปเร สเตเดียม เมืองแทมเปเร ประเทศฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งคนที่ทำให้เกิดภาพประวัติศาสตร์นี้ คือ นางสมสง่า บุญนอก หรือ ครูสมสง่า อายุ 68 ปี ครูเกษียณอายุราชการจากโรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ที่คว้าเหรียญทองเหรียญแรกในประวัติศาสตร์ให้กับทีมกรีฑาสูงอายุไทย จากการแข่งกระโดดไกลหญิง โดยทำสถิติกระโดดได้ไกลถึง 3 เมตร 90 เซนติเมตร เอาชนะนักกีฬาจากเนเธอร์แลนด์ และสวีเดนไปได้ ถือเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่ได้รับเหรียญทองในการแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงแชมป์โลก 2022
ซึ่งสถิติที่ทำได้จากการแข่งขันครั้งนี้ ดีกว่าสถิติเอเชียที่นักกีฬาจากประเทศญี่ปุ่น ทำไว้ที่ 3.78 เมตร เมื่อปี พ.ศ.2547 ที่ประเทศไทย และดีกว่าสถิติแห่งประเทศไทย ที่ครูสมสง่าเคยทำไว้เอง ที่ระยะ 3.82 เมตร เมื่อปี พ.ศ.2563 ที่จังหวัดสุพรรณบุรีด้วย
ครูสมสง่า เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 7HD เล่าที่มาของความสำเร็จ ว่าตัวเธอชื่นชอบกีฬากรีฑามาตั้งแต่สมัยเรียน เคยลงแข่งขันกีฬาเขตและกีฬาของวิทยาลัยครู จนมารับราชการครู สอนวิชาวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังเล่นกีฬามาตลอด ไม่เคยหยุด จนได้เป็นตัวแทนประเทศไปแข่งชิงแชมป์กีฬาผู้สูงอายุเอเชีย
ส่วนสถานที่ฝึกซ้อมนั้น ถึงจะไม่มีสนามกีฬาก็ไม่เป็นอุปสรรค เพราะครูสมสง่าไม่สร้างข้อจำกัดให้ตัวเอง ครูใช้ทุกที่ให้เป็นพื้นที่ฝึกซ้อมและออกกำลังกาย เช่นตอนเดินขึ้นบันไดไปสอนนักเรียน ก็จะใช้วิธีก้าวยาว ๆ ฝึกซ้อมวิ่งใต้ถุนอาคารเรียน เพราะกรีฑาเป็นกีฬาที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ สามารถเล่นและฝึกซ้อมคนเดียวได้
ในการแข่งขันครั้งนี้ เธอต้องเจออุปสรรคตั้งแต่วันแรก เพราะกระเป๋าเดินทางหาย ไม่มีเสื้อผ้าที่ใช้ใส่แข่งขัน ต้องยืมของเพื่อนนักกีฬาในทีม ซึ่งค่อนข้างกระทบกับกำลังใจของเธอ แต่เมื่อต้องลงแข่งก็พยายามตั้งใจทำให้ดีที่สุด ด้วยความฝันที่อยากสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย อยากทำให้คนไทยภาคภูมิใจ ซึ่งในที่สุดก็สามารถทำได้สำเร็จ
ครูสมสง่า ยังฝากให้กำลังใจผู้สูงวัยทุกคน อย่าคิดว่าตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้ อยากให้ลุกขึ้นมาดูแลสุขภาพ ใช้กีฬาเป็นยาวิเศษ เคล็ดลับคือเตรียมตัวให้พร้อม ซ้อมให้ดี และมีวินัย มีครบ 3 อย่างนี้ไม่ว่าจะเป็นวัยใด ก็ประสบผลสำเร็จ
สำหรับการแข่งขันกรีฑาสูงอายุชิงแชมป์โลกครั้งนี้ มีนักกีฬาผู้สูงอายุของไทยไปร่วมลงแข่งขันทั้งหมดรวม 4 คน และมีนักกีฬาจาก 91 ประเทศร่วมการแข่งขัน ณ ตอนนี้ นักกีฬาผู้สูงอายุของไทยคว้าเหรียญให้คนไทยได้แล้ว 2 เหรียญทอง จากกระโดดไกล และวิ่ง 20 กิโลเมตร และอีก 2 เหรียญเงิน ยังมีอีกหลายรายการที่ยังต้องลุ้นเหรียญกัน นักกีฬาไทยทั้งหมดจะเดินทางกลับประเทศวันที่ 10 กรกฎาคม นี้
