ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

แอบอ้างฯ รับเงินสถานบันเทิง

ข่าวภูมิภาค 8 กรกฎาคม 2565 - ห้องข่าวภาคเที่ยง - ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครอง บุกรวบตัวดาบตำรวจสังกัดตำรวจท่องเที่ยว ขณะนำรถออกตระเวนเดินสายเก็บส่วยสถานบันเทิงย่านจังหวัดนนทบุรี ล่าสุดต้นสังกัดมีคำสั่งให้ ดาบตำรวจนายดังกล่าว ออกจากราชการแล้ว

นี่เป็นนาทีระทึก ขณะชุดเฉพาะกิจกรมการปกครอง สนธิกำลังหน่วยปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครองสำนักการสืบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอบางใหญ่ และตำรวจ สภ.บางใหญ่ บุกรวบตัวดาบตำรวจภูวเมศร์ ตำรวจสังกัดตำรวจท่องเที่ยว และนายมานัส อายุ 46 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ขณะนำรถออกตระเวนเดินสายเก็บส่วยสถานบันเทิงย่านจังหวัดนนทบุรี ได้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ที่ตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี

การจับกุมเจ้าหน้าที่สามารถยึดเงินที่ทำสัญลักษณ์ไว้ได้จำนวนหนึ่ง และขณะบุกเข้าจับกุมหวิดเกิดเหตุยิงปะทะกัน โชคดีที่เจ้าหน้าที่ทำการขับรถปิดท้าย-ปิดหน้า ไม่ให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนขับรถหลบหนีออกจากบริเวณลานจอดรถได้ โดยดาบตำรวจภูวเนตร ขับรถสายตรวจตำรวจท่องเที่ยว ส่วนนายมนัส ขับรถนิสสัน สีบรอนด์ทอง

นายรณรงค์ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก ผู้ประกอบการสถานบันเทิง แจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่แอบอ้างเป็นชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองเดินสายเก็บส่วยสถานบันเทิง จึงวางแผนร่วมกับผู้ประกอบการ และ ตำรวจ สภ.บางใหญ่ เพื่อทำการจับกุม กระทั่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ขับรถตระเวนเก็บส่วยสถานบันเทิงหลายร้าน ชุดเฉพาะกิจฯ จึงขับรถติดตาม และเข้าทำการตรวจค้นขอจับกุม

ทีมข่าว 7HD สอบถามไปทาง พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็บอกว่า รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ได้สั่งการให้ พลตำรวจโท สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว รีบดำเนินการกับเรื่องดังกล่าวโดยเร่งด่วน และให้พิจารณาเอาผิดไปถึงผู้บังคับบัญชาชั้นต้นด้วย พร้อมกันนี้ยังได้สั่งให้ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ไปตรวจสอบดูแลเรื่องดังกล่าว และให้ จเรตำรวจแห่งชาติ ไปตรวจสอบดำเนินการทางวินัย

ขณะที่ พลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างมาก จึงให้ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยไม่ต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้มีคำสั่งให้ ดาบตำรวจภูวเมศร์ ออกจากราชการไว้ก่อนโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องการพิจารณาความผิดของผู้บังคับบัญชา ดาบตำรวจภูวเมศร์ จะมีการตรวจสอบเรื่องความบกพร่องในการปกครองดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา นอกจากนี้จะต้องตรวจสอบเรื่องการนำรถของตำรวจท่องเที่ยวไปใช้กระทำผิดนอกพื้นที่ ว่าดำเนินการถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ หากพบว่าใครมีความบกพร่อง ก็ต้องดำเนินการทางวินัยด้วย

ส่วนการดำเนินคดีอาญา ได้กำชับให้ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนนทบุรี ลงไปกำกับดูแลการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ ให้ดำเนินคดีนี้อย่างรัดกุม รวดเร็วและเป็นธรรม เพื่อให้สังคมเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่ปกป้องตำรวจที่กระทำผิด

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ดาบตำรวจ ภูวเมศฐ์ ระหว่างที่สังกัดอยู่ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 เคยถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมทำนองนี้ มาที่ กองบังคับการฯ บ่อยครั้ง กระทั่งถูกสั่งโยกย้ายออกนอกพื้นที่ไปหลายปี ก่อนจะไปสังกัด กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ในปัจจุบัน ส่วนบัตรประจำตัวข้าราชการที่ใช้อยู่ พบว่าเป็นบัตรที่ระบุต้นสังกัดเดิม คือ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ไม่ได้นำไปแก้ไขให้เป็นสังกัดที่ถูกต้องในปัจจุบัน

ขณะที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้เรียกประชุมผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วนตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อพิจารณารายละเอียดข้อเท็จจริงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก่อนกำหนดแนวทางดำเนินการกับ ดาบตำรวจ ภูวเมศฐ์ ต่อไป

และเวลา 11.30 น.ของวันนี้ พลตำรวจตรี อภิชาติ สุริปุณยา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จะแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สนามบินสุวรรณภูมิ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark