ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

จ่อเอาผิดเพิ่ม เปลี่ยนคนขับ-สวมทะเบียน นายกสมาคมกีฬา ขับรถชนแล้วไม่รับผิดชอบ

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีที่มีผู้เสียหายออกมาแฉพฤติกรรมของนายกสมาคมกีฬาแห่งหนึ่ง ว่ามีการขับรถหรูชนท้าย ตอนแรกมีการตกลงจะชดใช้ค่าเสียหาย แต่กลับผิดคำพูดไม่ชดใช้ จนต้องนำเรื่องนี้ไปปรึกษาทนายความ ล่าสุด กลับมาชดใช้แล้ว แต่เรื่องนี้ยังไม่จบ เพราะอาจจะมีความผิดเรื่องการขับรถโดยประมาท

นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณจุดกลับรถเลียบทางด่วนมอเตอร์เวย์ ที่ นายปรินทร รุ่งจินดาพร ได้นำมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากถูกนายกสมาคมกีฬาประเภทหนึ่ง ขับรถหรู (ปอเช่) ชนท้าย เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งตนกำลังจะกลับบ้านย่านสวนหลวง ร.9 เดินทางมาจากพระราม 9 กระทั่งมาถึงช่วงทางเข้าถนนพัฒนาการ จะเข้าหมู่บ้านนักกีฬา จะต้องกลับรถประกอบกลับฝนตกหนัก ตนจึงชะลอรถ จังหวะนั้นรถของคู่กรณีที่ขับมาด้วยความเร็วก็พุ่งชนเข้าด้านหลังอย่างจัง

หลังเกิดเหตุ ตนและคู่กรณีลงมาพูดคุยกัน และมีการตกลงจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับตน เป็นค่าซ่อมรถประมาณ 130,000 บาท และค่าเช่ารถวันละ 1,000 บาท เนื่องจากระหว่างที่รอรถซ่อม ตนต้องใช้รถในการไปทำงาน ซึ่งตอนนั้นคู่กรณีก็ยอมรับผิดและยินดีชดใช้ เพราะรถหรูไม่มีประกันด้วย แต่เวลาต่อมาคู่กรณีที่เป็นถึงนายกสมาคมกีฬาฯ กลับไม่รับผิดชอบตามที่ตกลง โดยมีการจ่ายค่าเช่ารถให้เพียงวันละ 500 บาท จำนวน 12 วัน รวมเป็นเงิน 6,000 บาท จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย โทรไม่รับสาย รวมทั้งในวันที่เกิดเหตุตนได้ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ แต่คนที่ไปเป็นคู่กรณีกลับไม่ใช่นายกสมาคม แต่เป็นลูกชายซึ่งเป็นตำรวจ จึงขอนำเรื่องนี้มาปรึกษากับ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เพื่อขอความเป็นธรรม

หลังจากเรื่องนี้กลายเป็นข่าวไม่นาน ลูกชายของนายกสมาคมกีฬารายนี้ก็ติดต่อมายัง นายปรินทร ผู้เสียหาย เพื่อเจรจาตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ 100,000 บาท พร้อมขอให้ลบโพสต์ที่ นายปรินทร โพสต์เรียกร้องความเป็นธรรม และยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้หาย แต่ยังตกลงไม่ได้ว่าจะชดใช้ให้เท่าไหร่ยังไง ซึ่งตอนนี้ผู้เสียหายก็ไม่ติดใจอะไรแล้ว

แม้ว่าผู้เสียหายจะไม่ติดใจเอาความแล้ว แต่ด้าน ทนายตั้ม ไม่ยอม เพราะเรื่องนี้มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่านายกสมาคมกีฬามีความผิดชัดเจน ทั้งเรื่องของการเปลี่ยนตัวคนขับ ที่ตอนเกิดอุบัติเหตุเป็นนายกสมาคมกีฬา แต่หลังเกิดเหตุกลับเป็นลูกชายที่เป็นคนไปลงบันทึกประจำวัน อีกทั้งยังมีประเด็นทะเบียนรถที่มีการสวมรอยหรือไม่ เพราะวันเกิดเหตุตำรวจตรวจสอบทะเบียนพบข้อมูลที่ไม่ตรงกัน จึงอาจมีความผิดทั้งเรื่องของการขับรถโดยประมาท แจ้งความเท็จ และสวมทะเบียนหรือไม่

หลังจากนี้ตำรวจจะเรียกคู่กรณีที่เป็นนายกสมาคมกีฬาคนนั้นมาสอบปากคำเพิ่มเติมในประเด็นที่ยังมีข้อสงสัย โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนตัวคนขับรถในวันที่เกิดเหตุ และเรื่องทะเบียนรถว่ามีการจดทะเบียนตามกรมการขนส่งฯ อย่างถูกต้องหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark