ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

จับ ทหาร-ตร. ค้าอาวุธสงคราม พบปืนถูกนำไปก่อเหตุอื้อ

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจภูธรภาค 8 ขยายผลจับกุมข้าราชการทหารและตำรวจ ลอบจำหน่ายอาวุธสงครามในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ก่อนพบว่าปืนถูกนำไปก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ พร้อมเตรียมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการอีก

เริ่มต้นที่การจับกุม จ่าสิบเอก กิตติพงศ์ ทหารสังกัดค่ายเสนาณรงค์ ผู้ต้องหาคดีจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยมิได้รับอนุญาต

โดยการจับกุม จ่าสิบเอก กิตติพงศ์ เกิดจากการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด ซึ่งได้มีการจับกุมคนร้ายกับพวก พร้อมอาวุธปืน และยาเสพติด ซึ่งพบว่าในจำนวนนี้เป็นปืนสงคราม เป็นของทางราชการ ซึ่ง 1 ในผู้ต้องหา ซัดทอดว่า ปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ก่อเหตุ ได้รับมาจากจ่าสิบเอก กิตติพงศ์ ในราคากระบอกละ 50,000 บาท ที่กำลังจะนำไปก่อเหตุถล่มบ้านคู่อริในพื้นที่ โดยคดีนี้ออกหมายจับทั้งหมด 4 คน ส่วนอีกคดี เป็นการจับกุมดาบตำรวจนายหนึ่งพวก พร้อมอาวุธปืนของกลาง ที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์มีการใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่มบ้านคู่กรณีที่ขับรถเฉี่ยวชนกันและไม่สามารถตกลงกันได้

ตำรวจสืบสวน พบว่า ดาบตำรวจนายนี้นำอาวุธปืนไปจำนำ และถูกขายต่อเป็นทอด ๆ จนถึงมือของนายไพฑูร ลูกสมุนของ บังแก๊ก หรือ นายประดิษฐ์ ที่ได้ถูกตำรวจวิสามัญไปเมื่อ 24 มกราคมที่ผ่านมา และถูกนำไปใช้ที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีการออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนสงครามดังกล่าว 5 ราย

จำนวนนี้ เป็นดาบตำรวจ 2 นาย และร้อยตำรวจโท 1 นาย จึงแจ้งข้อหาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือรับของโจร ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน

พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า การที่ปืนสงครามตกไปอยู่ในมือคนร้ายเป็นปัญหาใหญ่ และเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะปฏิบัติหน้าที่ และย้ำว่าปืนเหล่านี้ไม่สามารถหลุดรอดมาได้ หากคนในไม่รู้เห็นเป็นใจ หรือขโมยมาขาย

หลังจากนี้ จะมีการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมถึงเส้นทางการนำเอาอาวุธปืนสงครามเหล่านี้มาจำหน่ายในพื้นที่ เพื่อเป็นการยับยั้งไม่ให้มีการก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้อีก เพื่อความปลอดภัยของชาวจังหวัดพัทลุง และพื้นที่ใกล้เคียง

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark