ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

คอลัมน์หมายเลข 7 : ทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง 1,500 ล้านบาท

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ไปติดตามคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจจังหวัดพัทลุง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาท ขณะนี้มีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 24 คน ติดตามจากรายงานคุณมะลิ แซ่ฉิ่น

นี่เป็นบัญชีเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง ซึ่งให้ข้อมูลไว้ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่า สหกรณ์มีทุนเรือนหุ้นตามบัญชีจำนวน 2,188 ราย เป็นเงินทั้งหมด 1,205,194,110 ล้านบาท แต่เมื่อกางดูในรายละเอียด กลับพบว่าสหกรณ์มีแผ่นทะเบียนทุนเรือนหุ้นให้ตรวจสอบเพียง 1,801 ราย จำนวนเงิน 1,116,929,560 ล้านบาท

ยังไม่เท่าตัวเลขยอดเงินกู้ ที่พบว่ามีการกู้ยืมเพียง 1,784 ล้านบาท แต่กลับทำบัญชีเงินกู้สูงถึง 3,362 ล้านบาท ซึ่งต่างกันครึ่งต่อครึ่ง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการตกแต่งบัญชีการกู้เงินของสมาชิก 1,008 คน อีกวงเงิน 1,075 ล้านบาท ซึ่งหลายคนกู้ไม่ถึงวงเงินที่ลงไว้ในบัญชี

ความผิดปกติที่เกิดขึ้น เป็นเหตุให้ตำรวจในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ยื่นเอกสารร้องขอให้ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาช่วยตรวจสอบและสอบสวนปัญหา กระทั่งมีการแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาดูรายละเอียด และขยายผล จนพบว่ามีการกระทำความผิดเป็นขบวนการ

และพบรายการเดินบัญชีของสหกรณ์ที่ผิดปกติ จึงทำการอายัดบัญชีเงินฝากของผู้ต้องหา โดยเริ่มระยะแรก 8 คน จำนวน 15 บัญชี และยังมีการอายัดบัญชีเงินฝากทุนเรือนหุ้นในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุงจำกัด ของกลุ่มผู้ต้องหาอีก 31,991,500 ล้านบาท

เวลานี้ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีตั้งแต่ประธานสหกรณ์ ไปจนถึงกรรมการซึ่งยังรับราชการอยู่ และบางคนเกษียณอายุราชการไปแล้ว 24 คน

วงเงินมูลค่าความเสียหาย การทุจริตในครั้งนี้ มีมากกว่า 1,500 ล้านบาท และล่าสุดตำรวจได้ตามไปอายัดทรัพย์สินที่พบว่าได้มาจากการกระทำความผิดในหลากหลายพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์ ทาวน์เฮาส์ รีสอร์ต ไปจนถึงโรงแรม รวมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า การทุจริตคดีสหกรณ์ออมทรัพย์พัทลุง มีมายาวนาน และมีความซับซ้อน โดยเฉพาะระบบการเบิกจ่ายเงินทำกันเป็นขบวนการ บางบัญชีเบิกเงินออกจากระบบมากกว่าสัญญาการกู้เงินกว่าเท่าตัว ทำให้มูลค่าความเสียหายสูงกว่า 1,500 ล้านบาท

เวลานี้ตำรวจได้ส่งรายงานการจัดทำบัญชี และเส้นทางการเงินที่รวบรวมได้จากการสอบสวน ไปให้คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. ซึ่งมีมติมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรม นางสาวสุภา สุวรรณเดชากุล กับพวก โดยให้ส่งต่อไปยังกองคดีที่ 3 เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และกำลังจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในสหกรณ์การเกษตรด้วย เพื่อเป็นการตัดวงจรการทุจริตออกจากสหกรณ์ พร้อมเชิญอธิบดีสหกรณ์การเกษตรมาหารือแนวทางการป้องกันการทุจริตที่จะเกิดขึ้นกับอีกหลายสหกรณ์ทั่วประเทศ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark