ไม่ย้าย 5 เสือ ละเลยสถานบริการย่านสายไหม

เจาะประเด็นข่าว 7HD - เมื่อคืนนี้ 02.30 น. ตำรวจ ดส. บุกเข้าตรวจค้นสถานบริการแห่งหนึ่งย่านสายไหม หลังได้รับข้อมูลว่ามีการเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จากการตรวจสอบพบว่ามีเยาวชน 32 คนใช้บริการ พบยาเคตามีนจำนวนหนึ่ง และสถานบริการแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ

โดยจุดที่เข้าทำการตรวจค้นอยู่ภายในซอยพหลโยธิน 54/2 แขวงและเขตสายไหม ซึ่งขณะที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี หรือ ดส. ไปถึง ยังพบมีนักเที่ยวสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน ทั้งที่เป็นเวลาประมาณ 02.30 น. ซึ่งเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว จึงดำเนินการตรวจสอบ พบว่าภายในร้านมีนักเที่ยวรวม 156 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี 32 คน และยังพบของกลางเคตามีนอีกจำนวนหนึ่ง

นายชาฐิต อายุ 21 ปี รับเป็นผู้ดูแลร้าน ซึ่งจากการเรียกตรวจเอกสารใบอนุญาต พบว่ามีเพียงใบอนุญาตจำหน่ายสุรา แต่ไม่มีใบอนุญาตเปิดกิจการมาแสดง ตำรวจจึงพาตัวไปดำเนินคดีใน 4 ข้อหา ฐานเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ปล่อยปละให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดภายในร้าน, ปล่อยให้เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ และจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้กับเยาชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ก่อนส่งตัวให้ สน.สายไหม ดำเนินคดี

ขณะที่ พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า สำหรับเยาวชนทั้ง 32 คน ที่พบในสถานบันเทิงได้ติดต่อให้ผู้ปกครองให้มารับทราบพฤติกรรม และทำบันทึกประวัติ พร้อมกำชับให้ผู้ปกครองทุกคนสอดส่องดูแลบุตรหลานไม่ให้กระทำผิดอีก หากพบมีการกระทำผิดซ้ำ จะพิจารณาเอาผิดกับผู้ปกครอง ตาม พ.ร.บ.เด็กและเยาวชน ต่อไป

ส่วนเรื่องการตรวจสอบจับกุมดังกล่าว เนื่องจากพบว่าเป็นการจับกุมร่วมกันของตำรวจ ดส. , ตำรวจ 191 และสน.สายไหม จึงยังไม่มีเหตุจำเป็นต้องสั่งย้ายผู้ที่รับผิดชอบของ สน.สายไหม ไปช่วยราชการ แต่หากมีข้อมูล หรือ พยานหลักฐานว่า ตำรวจในพื้นที่ปล่อยปละละเลยจริง ก็จะพิจารณาความผิดทางวินัยในภายหลังได้

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบร้านอาหาร ร้านจำหน่ายสุรา และสถานบันเทิง ในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ร้านต่าง ๆ ดำเนินการขอใบอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย