ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ไม่สบอารมณ์ถูกเตือน อย่ากินหอย อาละวาดพังข้าวของระเนระนาด จ.ตราด

ข่าวภูมิภาค 17 กรกฎาคม 2565 - สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ต้นเหตุของเรื่องนี้เกิดจากที่ภรรยา เอ่ยปากห้ามสามีว่า "อย่าเอาหอยของคนอื่นมากินเลย" แค่คำ ๆ นี้คำเดียวถึงกับทำให้อารมณ์ของสามีขุ่นมัว ไม่พอใจ พังทำลายข้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหาย รวมมูลค่านับหมื่นบาท

นี่เป็นภาพสิ่งของเครื่องใช้หลายรายการทั้ง โต๊ะ เก้าอี้ ตู้เก็บอาหาร เตาอั้งโล่ที่ใช้ทำอาหาร และกระถางต้นไม้ ซึ่งทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของชาวบ้าน ได้ถูกชายอายุ 32 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่เกิดคลุ้มคลั่งอาละวาดเดินไปหยิบมาโยนทิ้ง โดยไม่สนใจใคร จนข้าวของแตกเสียหาย กระจัดกระจายเกลื่อนพื้นเต็มไปหมด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมืองตราด ซึ่งหลังจากที่ชายอายุ 32 ปี นำทรัพย์สินของชาวบ้านมาโยนทิ้งแล้ว ชายที่ก่อเหตุยังสติแตก ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ อาละวาดส่งเสียงดังโวยวายลั่นห้องเช่า ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย และผู้เช่ารายอื่นที่อาศัยอยู่ห้องเช่าเดียวกับชายคนนี้ พากันหวาดกลัวว่าเขาจะก่อเหตุที่รุนแรงขึ้น จึงรีบโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ สภ.เมืองตราด ให้มาช่วยระงับเหตุ แต่พอตำรวจสายตรวจมาถึง พบว่าชายอายุ 32 ปี วิ่งเข้าไปหลบอยู่ภายในห้องเช่าของตัวเอง และดูท่าว่าจะไม่ยอมสงบสติอารมณ์ง่าย ๆ จึงบุกเข้าไปในห้องล็อกตัว

หญิงอายุ 30 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนหน้าเธอมีปัญหาระหองระแหงกับสามี เพราะด้วยนิสัยไม่พอใจอะไร ก็ลงมือทำลายข้าวของพังเสียหาย เธอจึงหลบไปนอนพักค้างคืนที่บ้านของน้องสาว และเพิ่งเดินทางกลับมาที่ห้องเช่าเมื่อวานนี้ โดยมาพบสามีดื่มเหล้าจนเมา แล้วถือวิสาสะไปหยิบหอยเชอรี่ ซึ่งเป็นของพี่เขย หามาไว้ปรุงอาหารกินโดยไม่ได้รับอนุญาต เธอจึงพูดห้ามสามีว่า อย่าเอาหอยของคนอื่นมากินเลย เพราะไม่ใช่ของเรา คาดไม่ถึงแค่คำพูดประโยคเดียว จะทำให้สามีโมโหเลือดขึ้นหน้า แสดงอาการโวยวาย อาละวาด ก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง และฝ่ายสามีก็ลงมือทำลายข้าวของทั้งของตนเอง และของชาวบ้านคนอื่นได้รับความเสียหายไปด้วย

หนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่งก็เป็นน้องสาวภรรยาของผู้ก่อเหตุด้วย เผยว่า ช่วงเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน จึงไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเมื่อนับรวมข้าวของที่ถูกพังทำลาย ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้ขายอาหาร อย่างตู้เก็บของ ก็เพิ่งจ้างทำมาในราคา 6,000 บาท และยังมีตู้กระจก มูลค่าประมาณ 1,500 บาท รวมทั้งอุปกรณ์อื่น ๆ อีกหลายอย่าง พอมาเกิดเหตุแบบนี้ส่งผลให้เธอต้องหยุดขายของ เพราะไม่มีอุปกรณ์ทำมาหากิน และเมื่อถามว่าคิดจะแจ้งความเอาผิดกับชายที่ก่อเหตุไหม เธอบอกว่า ยังไม่ได้คิด เพราะถ้าเรียกค่าเสียหายไป ก็ไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุจะมีเงินมาชดใช้หรือไม่ เพราะรวม ๆ แล้วความเสียหายน่าจะเกินหลักหมื่นบาทขึ้นไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark