ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

สธ. - กทม. ถกลดกิจกรรมเสี่ยง หลังวันหยุดยาว

เช้านี้ที่หมอชิต - วันนี้จะมีการหารือร่วมกันระหว่างปลัดกระทรวงสาธารณสุขกับผู้ว่าฯ ชัชชาติ เพื่อวางแนวทางลดกิจกรรมเสี่ยงในกรุง หลังวันหยุดยาว รวมถึงการเตรียมแผนรักษาเพื่อรับมือกับโควิด-19 ที่คาดว่าจะเริ่มกลับมาระบาดหนัก และจะพีคสุดในเดือนสิงหาคม

วันนี้ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เชิญผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไปร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 เพื่อหารือการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้น หลังวันหยุดยาว โดยจะขอความร่วมมือ 2 ส่วน คือ การลด ละ เลิก กิจกรรมที่เสี่ยงในการติดและแพร่เชื้อ ซึ่งผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร สามารถออกมาตรการต่าง ๆ ภายในพื้นที่ให้มีความเหมาะสมได้

อีกส่วนคือเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาล โดยมีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประมาณ 2,000 รายต่อวัน และกว่าครึ่งอยู่ใน กทม. ส่วนเตียงผู้ป่วยโควิดอาการสีเหลืองและสีแดง หรือเตียงระดับ 2-3 ภาพรวมทั้งประเทศมีการใช้ประมาณ 13%

แต่ กทม. มีอัตราครองเตียงกว่า 42% จึงต้องเตรียมความพร้อมบริหารจัดการเตียงให้เพียงพอ ซึ่งโรงพยาบาลใน กทม. มีหลากหลายสังกัดทั้งของ กทม. กรมการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ ทหาร ตำรวจ รวมถึงโรงพยาบาลเอกชน จึงต้องประสานความร่วมมือเพื่อช่วยกันรองรับสถานการณ์ โดยมี กทม. เป็นหน่วยงานหลัก และกระทรวงสาธารณสุขให้การสนับสนุน

สำหรับประชาชนยังคงต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และมารับวัคซีนให้ครบ 3 เข็ม รวมถึงรับเข็มกระตุ้นทุก 4 เดือน จะช่วยป้องกันอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้

ล่าสุด กรุงเทพมหานคร ขยายเวลาฉีดวัคซีนโมเดอร์นา เข็มกระตุ้น ที่ศูนย์ฉีดวัคซีน อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชน กทม. ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ไปถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ จะเปิดฉีดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-16.00 น.

ด้าน ผศ.นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต บอกว่า สิ่งที่น่ากังวลคือยอดของการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่โรงพยาบาลมีผู้ติดเชื้อรายใหม่หลัก 10 ขณะนี้เพิ่มเป็นหลัก 100 บางครั้งพุ่งสูงไปถึง 150 คน ส่วนใหญ่มีอาการไอ เสมหะ คัดจมูกทั้งหมด แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรง และได้รับการฉีดวัคซีนรุ่นแรก เพียงแค่ 2 เข็ม หรือ 3 เข็ม

ต้องจับตามอีก 7-14 วัน ว่ายอดผู้ติดเชื้อรายใหม่จะพุ่งสูงขึ้นไปอยู่ที่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่กังวลมากที่สุดในขณะนี้ไม่ใช่แค่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นยาที่ใช้ในการรักษา เพราะประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เข้าไม่ถึง หรือยาไปกระจุกตัวบางที่ จึงเป็นสิ่งที่ต้องฝากรัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหา เพื่อดูแลประชาชนให้ทั่วถึง

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark