ข่าวในหมวด ประเด็นร้อนออนไลน์

พบในไทยแล้ว โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2.7 ดื้อยารักษา เชื้อแรงกว่า BA.4 / BA.5


หมอธีระ เผย ไวรัสโรคโควิด-19 โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2.75 พบในไทยเเล้ว  ผลวิจัยชี้ ดื้อต่อยารักษา และเชื้อแรงมากกว่า  BA.4 /  BA.5 ย้ำ หน้ากากอนามัยยังสำคัญมาก

วันนี้ (19 ก.ค. 65) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat เผยถึงสถานการณ์การเเพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการพัฒนาสายพันธ์ย่อย โดยระบุข้อความว่า

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 401,359 คน ตายเพิ่ม 909 คน รวมแล้วติดไป 568,111,043 คน เสียชีวิตรวม 6,388,680 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย บราซิล อิตาลี และสหรัฐอเมริกา เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 66.23 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 54.67

สถานการณ์ระบาดของไทย จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม

อัพเดตเรื่องน่าสนใจ
1. Novavax 3 เข็มมีระดับภูมิคุ้มกันในน้ำเลือดต่อเชื้อไวรัส Omicron พอๆ กับ mRNA vaccine (BNT162b2) 3 เข็ม Bhiman JN และคณะวิจัยจากประเทศแอฟริกาใต้เผยแพร่ผลการศึกษาใน bioRxiv เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา
2. ไวรัสโรคโควิด-19 Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.2.75 เดิมพบครั้งแรกที่อินเดีย และกระจายไปหลายต่อหลายประเทศ โดยมีข้อมูลจากการวิจัย สรุปดังที่เคยเล่าไว้เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ดังนี้
ทีมวิจัยจาก Indian SARS-CoV-2 Genomics Consortium (INSACOG) ให้ข้อมูลผ่านสื่อท้องถิ่น (Times of India, 4 July 2022) ว่า สายพันธุ์ย่อยของ Omicron ที่ตรวจพบในอินเดียมากนั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวล ทั้ง BA.2.74, BA.2.75, และ BA.2.76 ได้รับการประเมินเบื้องต้นพบว่ามีแนวโน้มที่จะมีความแข็งแรง (Viral fitness) มากกว่า BA.5
Yamasoba D และคณะวิจัยจากญี่ปุ่น เผยแพร่ผลการวิจัยใน bioRxiv วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 โดยศึกษาพบว่า BA.2.75 นั้นมีลักษณะการดื้อต่อยาแอนติบอดี้ที่ใช้ในการรักษาหลายชนิด เฉกเช่นเดียวกับ Omicron สายพันธุ์ย่อยที่ระบาดมาก่อน แต่ยาแอนติบอดี้บางชนิดก็ยังสามารถใช้ได้ผลในการจัดการเชื้อ เช่น Regdanvimab, Sotrovimab, Tixagevimab

ในขณะที่ Cao YR จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เผยแพร่ผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการแบบไม่เป็นทางการ ชี้ให้เห็นว่า BA.2.75 นั้นมีแนวโน้มจะจับกับตัวรับ ACE2 ได้มากกว่า BA.4 และ BA.5 แต่ในเรื่องการดื้อต่อภูมิคุ้มกันนั้น ศึกษาโดยดูภูมิคุ้มกันจากคนที่ฉีดวัคซีนแล้วเกิดติดเชื้อโรคโควิด-19 พบว่า BA.2.75 ดื้อกว่า BA.2.12.1 แต่อาจน้อยกว่า BA.4 และ BA.5 ยกเว้นกรณีที่เป็นคนที่เคยติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้ามาก่อน BA.2.75 จะดื้อต่อภูมิมากกว่าคนที่ติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron BA.1 และ BA.2 มาก่อน
อย่างไรก็ตาม คงต้องรอผลการศึกษาอย่างเป็นทางการ และจากการวิจัยอื่นๆ ในเวลาอันใกล้นี้ เพื่อให้ยืนยันลักษณะการดื้อต่อภูมิคุ้มกันของ BA.2.75  ล่าสุด Rajnarayanan R จาก Arkansas State University ได้รายงานอัพเดตการตรวจพบสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 ซึ่งเป็นที่จับตามองของทั่วโลกนี้ ที่น่าสนใจคือ มีรายงานว่าพบในประเทศไทยแล้วจากตัวอย่างสิ่งส่งตรวจที่มาจากจังหวัดตรัง ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2565

สถานการณ์ระบาดของไทยเรายังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จากรายงานล่าสุดวันนี้ 18 กรกฎาคม 2565 ของ European Centre for Disease Prevention and Control (ECDC) ชี้ให้เห็นว่า Omicron BA.4 และ BA.5 ในยุโรปนั้นกำลังระบาดหนัก และทำให้มีผู้ป่วยต้องรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นชัดเจนทุกช่วงอายุ นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยรุนแรงจนเข้าไอซียูและเครื่องช่วยหายใจ เพิ่มขึ้นชัดเจนมากในคนอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป

ไทยเราคงต้องระวังนะครับ เพราะธรรมชาติของโรคนั้นมักสอดคล้องกันไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก และมีโอกาสสูงที่เราจะกำลังเผชิญกับการระบาดที่มีสายพันธุ์ย่อยต่างๆ ไปพร้อมกันได้ หากไม่ป้องกันให้ดี จากความรู้ที่มีตอนนี้ BA.4 BA.5 และ BA.2.75 นั้นไม่กระจอก

ใช้ชีวิตได้ ทำมาหากินได้ ศึกษาเล่าเรียนได้ แต่ควรป้องกันตัวเสมอ ไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหนก็ตาม หากเราใช้ชีวิตอย่างมีสติ ใช้ความรู้ที่ถูกต้อง ไม่ประมาท ก็จะลดความเสี่ยงลงไปได้มากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้นมีความจำเป็นนะครับ และที่จำเป็นอย่างยิ่งคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง สำคัญมาก

BUGABOONEWS
ข้อมูลจาก FB : Thira Woratanarat

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark