คอลัมน์หมายเลข 7 : กรมป่าไม้ ปักป้ายรื้อถอน รีสอร์ตมวกเหล็ก รุกป่า

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ไปตามติดคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ซึ่งหลังจากที่ กรมป่าไม้ มีคำสั่งให้อายัดรีสอร์ตตั้งแต่ปี 2557 จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการรื้อถอน การบังคับใช้กฎหมายโดยการปิดประกาศให้หรือถอนไปใน 15 วัน จะเกิดขึ้นได้จริงไหม ติดตามจากรายงาน คุณมะลิ แซ่ฉิ่น

หลังจาก สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 5 สระบุรี พร้อมด้วยฝ่ายทหาร กอ.รมน.สระบุรี เคยนำป้ายไวนิลเขียนข้อความว่า "พื้นที่บริเวณนี้ได้ดำเนินการตรวจยึดดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ เนื้อที่ 522-3-11 ไร่ กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.มวกเหล็ก ปจว.ข้อ 8 คดีอาญาที่ 252/2557 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2557" โดยติดไว้ที่บริเวณร้านกาแฟด้านติดถนน และที่บริเวณถนนปากทางเข้า

ถึงวันนี้ผ่านมา 8 ปีแล้ว ไม่เพียงรีสอร์ตจะไม่รื้อถอนตามประกาศของ กรมป่าไม้ ยังเดินหน้าขยายพื้นที่เพิ่มเติมโดยมีการถางเปิดป่าเพิ่มเติมเข้าไปใกล้แนวเชิงเขา ทำให้พื้นที่บุกรุกป่าจากเดิมที่มีเพียง 500 ไร่เศษ กลายเป็น 800 ไร่เศษ โดยมีการนำมาจัดสรรขายให้กับกลุ่มไฮโซนามสกุลดัง มากกว่า 63 ราย ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนเลือกที่จะขึ้นพื้นที่ ขณะที่อีกหลายคนยังนิ่งเฉยกับปัญหาที่เกิดขึ้น

เกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานคอลัมน์หมายเลข 7 ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายร่วมกับ ปปท. ก็ยังคงไม่มีการดำเนินการคืนพื้นป่าให้กับ กรมป่าไม้ แต่อย่างใด

ขณะที่รีสอร์ตอีกแห่งซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากนัก มีการบุกรุกพื้นที่ป่าไปมากกว่า 1,200 ไร่ เพื่อสร้างรีสอร์ตขนาดใหญ่ ถึงวันนี้ตัวอาคารที่มีการสร้างรุกล้ำเข้าไปในแนวป่าถูกรื้อถอนออกไปเหลือเพียงบ้านพักกึ่งถาวร ที่ถูกอ้างว่าเป็นบ้านพักของคนงาน ซึ่งเมื่อสอบถามผู้ดูแลพื้นที่ได้รับแจ้งว่าเป็นการมาเฝ้าสวนผลไม้ ซึ่งด้านใดปลูกเอาไว้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะมะม่วง น้อยหน่า

แม้จะมีการรื้อถอนโครงสร้างหลัก แต่การคืนพื้นป่ายังไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการบังคับใช้กฎหมายมาตรา 25 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ

หลังเรานำเสนอปัญหานี้ ล่าสุด กรมป่าไม้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 ลงไปปักป้ายประกาศเตือนให้ผู้ประกอบการรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอีกครั้ง โดยครั้งนี้ขีดเส้นตายให้รื้อถอนภายใน 15 วัน หากเจ้าของกิจการยังละเลยที่จะดำเนินการตามข้อกฎหมาย กรมป่าไม้ จะเป็นผู้ดำเนินการหรือถอนเองทั้งหมด

รีสอร์ตจำนวนมากบุกรุกเข้ามาประกอบกิจการที่อำเภอมวกเหล็ก ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตแนวป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นแนวร่องลมโกรก ทำให้บริเวณนี้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี จึงมีการเข้ามาทำประโยชน์เชิงพาณิชย์จำนวนมาก โดยรีสอร์ตที่เป็นปัญหานี้มีการบุกรุกผืนป่ามากถึง 522 ไร่เศษ ในครั้งแรก ก่อนจะขยายรุกเพิ่มเป็นกว่า 800 ไร่

หวังว่าความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายที่กำลังมีการบังคับรื้อถอนเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 8 ปี จะเป็นบทสรุปของปัญหานี้ ไม่ต้องมีการปักป้ายกันเป็นครั้งที่ 3 อีก