หญิงข้ามเพศตายปริศนา แม่ยอมขุดศพตรวจ ทวงความยุติธรรม

เช้านี้ที่หมอชิต - เหตุสาวประเภทสองรายหนึ่งเสียชีวิตอย่างปริศนาที่จังหวัดราชบุรี และแพทย์แจ้งสาเหตุมาจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่ครอบครัวไม่ปักใจเชื่อ เพราะเจ้าตัวไม่เคยป่วยหรือมีประวัติการรักษาโรคนี้ และร่างกายแข็งแรงดี จึงอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อความเป็นธรรมของลูก

เป็นกรณี นายอรรถพล อีซอมูซอ อายุ 27 ปี หรือมีน เธอเป็นสาวประเภทสอง เสียชีวิตอย่างปริศนา เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่จังหวัดราชบุรี ช่วงประมาณ 11.00 น. หลังพลเมืองดีนำเธอไปส่งที่โรงพยาบาลปากท่อ เนื่องจากเธอฟุบอยู่ที่รถจักรยานยนต์ มีเลือดกำเดาไหลออกเปื้อนเสื้อสีขาวทั้งตัว ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง แต่ยังพูดคุยได้ หลังส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลปากท่อ อาการไม่ดีขึ้น จึงส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลราชบุรี สุดท้ายเธอก็เสียชีวิตลงในวันที่ 14 กรกฎาคม แพทย์ระบุสาเหตุว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว คุณผู้ชมจำประเด็นสาเหตุการเสียชีวิตด้วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวไว้ดี ๆ เพราะเป็นปมสำคัญของเรื่องนี้ แต่ก่อนอื่นไปฟังเสียงพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นก่อน

หลังเธอเสียชีวิต ครอบครัวได้รับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม ที่จังหวัดยะลา วันที่ 15 กรกฎาคม แต่สิ่งที่ยังค้างคาใจครอบครัว คือสาเหตุการเสียชีวิตที่หมอโรงพยาบาลราชบุรี บอกเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว

นางดรุณี สมจิต อายุ 56 ปี ผู้เป็นแม่ ยืนยันว่าเลี้ยงลูกมา 27 ปี ไม่เคยมีประวัติการรักษาโรคมะเร็ง ที่ผ่านมาสุขภาพร่างกายแข็งแรง และลูกก็เพิ่งจะออกจากบ้านมาทำงานที่กรุงเทพฯได้เพียง 6 เดือน ก่อนเสียชีวิตได้เดินทางไปหาแฟนหนุ่มที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งคบหากันตั้งแต่ตอนที่อยู่ยะลา และสภาพศพของลูกก็มีรอยฟกช้ำหลายจุด จึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะถูกแฟนหนุ่มทำร้ายหรือไม่ เพราะตอนที่อยู่จังหวัดยะลา เคยมีเรื่องการทำร้ายร่างกายและแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองยะลา แต่ครั้งนั้นมีการไกล่เกลี่ยจนยอมความไป จึงได้นำเรื่องนี้เข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยะลา

มาไล่เรียงไทม์ไลน์การเสียชีวิตของเธอ เริ่มจากวันที่ 10 กรกฎาคม ประมาณ 06.00 น. ขี่รถจักรยานยนต์จากกรุงเทพไปที่อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เพื่อไปพบแฟนหนุ่มในช่วงวันหยุด ต่อมาเวลาประมาณ 11.00 น. พลเมืองดีไปเจอฟุบอยู่บนรถจักรยานยนต์ภายในปั๊มน้ำมันที่อำเภอปากท่อ จึงนำส่งโรงพยาบาลปากท่อ โดยตอนนั้นหมอตรวจอาการพบว่าเลือดกำเดาไหลไม่หยุด โพรงจมูกบวม และมีบาดแผลที่ปาก จึงส่งตัวไปที่โรงพยาบาลราชบุรี รักษาตัวอยู่ 4 วัน จนมาเสียชีวิตในวันที่ 14 ด้วยสาเหตุมะเร็งเม็ดเลือดขาว ครอบครัวนำร่างไปบำเพ็ญกุศลในวันที่ 15 และเข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม ในวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ทีมข่าวได้คุยกับเพื่อนของผู้ตายที่อาศัยอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพ ซึ่งได้พูดคุยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเสียชีวิต

เมื่อวานนี้แม่และเพื่อนสนิทเดินทางมาร้องเรียนผ่านสื่ออีกครั้ง ในรายการถกไม่เถียง ทางช่อง 7HD แม่เปิดเผยด้วยท่าทีหนักใจว่า การตายของลูกเป็นที่น่าสงสัยเป็นอย่างมาก ร้อยทั้งร้อยก็ไม่เชื่อ ตอนนี้ทางครอบครัวจึงกำลังปรึกษากันว่าจะขุดศพผู้ตายขึ้นมาชันสูตรอีกหรือไม่ เพื่อไขข้อสงสัย แต่ต้องปรึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องของการผ่าชันสูตรก่อนว่า จะสามารถตรวจหาโรคมะเร็งได้หรือไม่ เพราะศพของลูกได้ฝังไป 5 วันแล้ว แต่ถ้ามีวิธีอื่นที่ดีกว่า ก็ไม่อยากนำศพขึ้นมา เพราะถือว่าผิดหลักศาสนาของอิสลามอย่างร้ายแรง

ความคืบหน้าทางคดี พลตำรวจตรี ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตตามที่แพทย์ระบุ เพราะยังไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย เนื่องจากมีการเรียกแฟนหนุ่มมาสอบปากคำ แม่บ้าน พลเมืองดี และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่ได้รับข้อมูลจากผู้ตายตอนที่ยังมีสติว่า ไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย

ส่วนรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย เจ้าหน้าที่ได้นำไปตรวจสอบหาลายนิ้วมือเพิ่มเติมแล้ว แต่โทรศัพท์มือถือของผู้ตายตอนนี้ยังหาไม่พบ ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาที่ครอบครัวคาใจอยู่ก็ได้ ซึ่งตำรวจกำลังตรวจสอบ และจะเชิญครอบครัวเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย