จับแล้ว ชายตีเนียนช่วยเหลือกวาดบ้าน สุดท้ายลักโทรศัพท์มือถือ จ.กาญจนบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีชายอายุ 67 ปี นักจัดวิทยุชุมชน แจ้งตำรวจกาญจนบุรี ว่าถูกคนร้ายตีสนิท ทำทีช่วยเหลือทำความสะอาดบ้านให้ ขโมยโทรศัพท์มือถือหลบหนีไป ตำรวจจับผู้ก่อเหตุได้แล้ว ยอมรับ รู้ว่าผู้เสียหายอยู่บ้านเพียงลำพัง จึงออกอุบายเข้าประชิดตัว เพื่อลักทรัพย์หาเงินซื้อยาบ้าเสพ ย้อนไปดูคลิปหลักฐาน

กล้องวงจรปิดภายในบ้านหลังหนึ่ง และเป็นที่ตั้งสถานีวิทยุชุมชนคลื่นหนึ่ง เขตพื้นที่ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี บันทึกภาพชายรูปร่างผอมสูง เดินถือไม้กวาดทำความสะอาดตามมุมนั้นมุมนี้ จากนั้นก็เปิดประตูห้องจัดรายการวิทยุ เพื่อเข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ที่เจ้าของเสียบปลั๊กชาร์จแบตเตอรี่ไว้ เหตุเกิดช่วง 09.00 น. วันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา

นายจำลอง แจ่มจำรัส อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ชายคนร้ายมาหาที่บ้าน บอกรู้จักกับลูกชายของนายจำลอง ก่อนตีสนิทสอบถามสารทุกข์สุกดิบ และเอ่ยปากช่วยกวาดทำความสะอาดพื้นให้นะพ่อ ด้วยคิดว่าชายคนนี้เป็นคนดีมีน้ำใจ จึงชะล่าให้ปล่อยให้คลาดสายตา กระทั่งพบว่าโทรศัพท์มือถือราคากว่า 10,000 บาทสูญหายไป จึงนำหลักฐานแจ้งความกับตำรวจ พร้อมโพสต์เตือนภัยผู้คนในโซเชียลมีเดีย

ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี แกะรอยติดตามตัวคนร้ายตามภาพกล้องวงจรปิด และจับกุมตัวนายสุทนต์ เทือกเถาว์ โดยเจ้าตัวยอมรับ ว่ารู้จักกับลูกชายของผู้เสียหายจริงแต่ไม่สนิท และเคยทำงานเป็นพนักงานส่งน้ำดื่มที่บ้านหลังเกิดเหตุ จึงทราบว่าชายสูงอายุอยู่บ้านเพียงลำพัง

วันเกิดเหตุ (17 ก.ค.) เห็นประตูบ้านเปิดไว้ จึงตีเนียนเดินเข้าไปพูดคุยกับชายสูงอายุ จากนั้นก็หยิบไม้กวาดมากวาดพื้น พร้อม ๆ กับสำรวจดูลาดเลาว่าจุดไหนมีทรัพย์สินอะไรให้ขโมยได้บ้าง จนเมื่อผู้เสียหายละสายตา เขาจึงแอบเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋า นำไปขายให้กับคนรู้จักในราคา 500 บาท เพื่อซื้อยาบ้าเสพ ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมแจ้งข้อหาลักทรัพย์ และเสพยาบ้า

ผู้กำกับการ สภ.เมืองกาญจนบุรี ฝากเตือนผู้สูงอายุที่อยู่บ้านเพียงลำพัง ให้ล็อกกลอนประตูอย่างแน่นหนา และอย่าเปิดบ้านให้คนแปลกหน้า เคราะห์ดีที่คดีนี้คนร้าย ไม่ได้ทำร้ายเหยื่อจนบาดเจ็บ หรือ ถึงขั้นเสียชีวิต

ตำรวจสืบประวัติ นายสุทนต์ เพิ่มเติม พบว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา เคยถูกตำรวจ สภ.หนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี จับข้อหายาเสพติด โดยขณะควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาล ผู้ต้องหาได้กระโดดลงจากรถเพื่อหลบหนี ทั้ง ๆ ที่ถูกใส่กุญแจมืออยู่ ตำรวจติดตามตัวกลับมาได้ ศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน สุดท้ายพ้นโทษมาก่อคดีลักทรัพย์ซ้ำ