คลิปที่เกี่ยวข้อง

สธ.ไทยมั่นใจคุมฝีดาษลิงอยู่ ยังไม่ยกระดับเป็นโรคอันตราย

เช้านี้ที่หมอชิต - กระทรวงสาธารณสุข มั่นใจคุมโรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิงอยู่ ไม่ยกระดับเป็นโรคติดต่ออันตราย แค่ให้เฝ้าระวัง พร้อมชี้ต้องตรวจสอบไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายแรกอีกครั้งถึงจะฟันธงได้ว่า มีการติดเชื้อในประเทศหรือไม่

เรื่องการคงให้โรคฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง เป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวังต่อไปนั้น เป็นมติจากคณะกรรมการวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญไวรัส ที่เพิ่งเคาะกันเมื่อเย็นวานนี้ (25 ก.ค.)

หลังพิจารณาตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ที่นิยามกำหนดไว้ว่า "โรคติดต่ออันตราย" ต้องเป็นโรคติดต่อที่มีความรุนแรงสูงและสามารถแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็ว แต่โรคฝีดาษลิงยังไม่ถือว่าเข้าเกณฑ์ ประกอบกับมาตรการด้านสาธารณสุข ทั้งการเฝ้าระวังโรค และการรักษาโรค ยังอยู่ในวิสัยที่รับมือได้ แม้จะมีการระบาดในประเทศอื่นก็ตาม

หากถามว่า ถ้าโรคฝีดาษลิง เกิดการระบาดในประเทศไทยขึ้นมาจริง ๆ แล้วยังต้องรอการประกาศยกระดับโรคอีก จะยิ่งล่าช้าหรือไม่ นายแพทย์จักรรัฐ ชี้แจงว่า สถานการณ์นี้สามารถประกาศให้เป็นโรคระบาดรายพื้นที่เพื่อควบคุมโรคได้เลย แต่ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตะหนก เนื่องจากโรคฝีดาษลิง ติดต่อสู่กันได้ยากเมื่อเทียบกับโรคติดต่ออื่น ๆ อาทิ โรคโควิด-19

ขณะที่อีกประเด็นที่ยังมีการจับตาถึงการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงของชายชาวไนจีเรียรายนี้ว่า เข้ามาไทยตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม ปีที่แล้วนั้น แต่ทำไมถึงเพิ่งจะพบและตรวจยืนยันว่าติดโรคเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เดินทางออกจากไทย และประเทศเราก็ยังไม่มีการตรวจพบโรคฝีดาษลิงอีกด้วย เรื่องนี้ นายแพทย์จักรรัฐ ชี้แจงว่า ต้องตรวจสอบไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายนี้ย้อนกลับมาอีกครั้ง เพราะประวัติค่อนข้างคลุมเครือ

ส่วนกรณีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยผลตรวจตัวอย่างกลุ่มเสี่ยงสูงเพิ่ม 27 ตัวอย่าง แต่ให้เป็นลบ หรือไม่ติดเชื้อ แต่กลับเจอในสิ่งแวดล้อม เช่น ลูกบิดประตู ผ้าปูต่าง ๆ ในห้องพักนั้น ก็ได้รับการชี้แจงว่า อาจเกิดขึ้นได้ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสามารถแพร่เชื้อโรคต่อได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม การพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง ชายชาวไนจีเรีย รายแรกในไทยครั้งนี้ ก็ยังคงต้องจับตากันต่อ แต่เมื่อวานผู้สัมผัสใกล้ชิด 19 คน ที่ภูเก็ต ก็ยังไม่พบว่า มีใครติดเชื้อเพิ่ม

หากครบ 21 วันแล้ว ไม่มีผู้ติดเชื้อ หรือไม่มีผู้ป่วยเพิ่มอีก ก็ถือว่าวงจรระบาดของชายชาวไนจีเรียรายนี้ก็ถือว่าสิ้นสุด ส่วนชายรายนี้จะถูกส่งกลับมาไทยหรือไม่ ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ทางการกัมพูชา จะไม่ส่งตัวมาไทย แต่จะส่งกลับประเทศถิ่นกำเนิดแทน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark