เตือน 10 จังหวัดเสี่ยง ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังน้ำเหนือหนุน

ข่าวสังคม 26 กรกฎาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - ฝนที่ตกอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกิดน้ำท่วมฉลับพลัน และมวลน้ำเหล่านั้น กำลังไหลลงมาทางภาคกลางผ่านทางแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทาง ปภ. ต้องออกมาเตือน 10 จังหวัดให้ระวังสถานการณ์น้ำ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศแจ้งเตือนพื้นที่ 10 จังหวัด ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักได้ทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคอีสานตอนล่าง ที่ร่องมรสุมพาดผ่าน ส่งผลให้มีมวลน้ำไหลลงสู่ภาคกลางมากขึ้นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ จุดเสี่ยงลุ่มต่ำริมแม่น้ำและประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา

โดยสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากการข้อมูลของกรมชลประทาน บริเวณสถานีวัดน้ำค่ายจิระประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 996 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 215 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และบริเวณเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนอยู่ที่ 747 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มจากเดิม 198 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนสถานีวัดน้ำอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี 346 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเดิม 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก่อนมวลน้ำจะไหลลงสู่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อไป

ส่วนในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เฝ้าระวังตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หลังจากเขื่อนเจ้าพระยาเริ่มเพิ่มการระบายน้ำมากขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท ไปจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 60-80 เซนติเมตร และบางจุดเริ่มเอ่อล้นตลิ่ง ชาวบ้านที่อาศัยริมแม่น้ำในพื้นที่ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา พากันเฝ้าติดตามระดับน้ำอย่างใกล้ชิด และทยอยเก็บข้าวของเตรียมพร้อมรับสถานการณ์แล้ว เพราะเชื่อว่าจะมีน้ำท่วมอย่างแน่นอน เนื่องจากปีนี้มีปริมาณน้ำมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับที่จังหวัดอ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งตรวจสอบพนังกั้นน้ำในพื้นที่ตำบลจระเข้ร้อง อำเภอไชโย ซึ่งเคยถูกกระแสน้ำพัดพังเสียหายเมื่อปีที่ผ่านมา ให้อยู่ในสภาพที่สามารถรับกระแสน้ำไหลเชี่ยวได้

ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ก็เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยบางคนได้เตรียมถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร เพื่อนำมาติดตั้งกับโครงกระชังเลี้ยงปลา และทำแพอยู่อาศัยหากระดับน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านที่นี่ก็เคยชินกับสถานการณ์ เพราะเกิดน้ำท่วมเป็นประจำเกือบทุกปี

ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี พบว่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน ประกอบกับมวลน้ำบางส่วนไหลลงมาจากทางภาคเหนือ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี จึงเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำ รวมทั้งพื้นที่เสี่ยง ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลับ

นอกจากนี้ให้ขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง เพราะระดับน้ำอาจล้นตลิ่งไหลทะลักเข้าท่วมได้ในวันสองวันนี้ และทางด้านเจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมความพร้อมอุปกรณ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที หากพื้นที่ใดมีน้ำท่วม

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศในช่วงวันที่ 29-31 กรกฎาคมนี้ ร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน ซึ่งลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย