ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง รายที่ 2 โผล่ กทม. เร่งหาชายชาวต่างชาติผู้ใกล้ชิด

เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง เมื่อวานนี้วันหยุดก็ไม่แผ่ว เพราะล่าสุด พบชายไทยอาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 2 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 คน พร้อมเร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ชายชาวต่างชาติ แล้ว

ข้อมูลนี้เปิดเผยโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุว่า ผลการตรวจหาเชื้อฝีดาษลิง ของชายไทย อายุ 47 ปี ทางห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันแล้วว่า ติดเชื้อจริง จึงนับเป็นผู้ป่วยรายที่ 2 ของประเทศไทย พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีการปกปิดข้อมูล เพราะจะส่งผลกระทบต่อการควบคุมโรคระบาดได้

ขณะที่นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้รับแจ้งเรื่องผู้ป่วยฝีดาษลิงคนดังกล่าว จากโรงพยาบาลวชิรพยาบาล กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค และ สำนักอนามัย กทม. จึงลงพื้นที่สอบสวนโรค 

ผลพบว่า ผู้ป่วยชายไทย อายุ 47 ปี ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ แต่วันที่ 14 กรกฎาคม เริ่มมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว จากนั้น 1 สัปดาห์ ก่อนมาโรงพยาบาลมีตุ่มหนองที่อวัยวะเพศ จึงซื้อยามารับประทานเอง ทำให้ตุ่มหนองแห้ง แต่ก็ยังมีตุ่มไปเริ่มขึ้นใหม่บริเวณแขน ขา ใบหน้า ศีรษะ จนวันที่ 27 กรกฎาคม ตัดสินใจเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ด้วยอาการอวัยวะเพศบวม เจ็บ แสบ

นายแพทย์โอภาส กล่าวย้ำว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าว อาการไม่รุนแรง และอยู่ในความดูแลของแพทย์ในห้องแยกโรค เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และได้ส่งตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัวจำนวน 10 คน เพื่อส่งตรวจหาเชื้อฝีดาษลิงแล้ว

แม้ว่าผู้ป่วยจะแยกตัวเองออกจากคนอื่น ๆ ในบ้านหลังมีตุ่มขึ้นแล้ว และจะยังเฝ้าสังเกตอาการต่อให้ครบ 21 วัน รวมทั้งส่งทีมไปสอบสวนโรคเร่งค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง บริเวณใกล้เคียงกันเพิ่ม โดยเฉพาะให้เร่งติดตามตัวชายชาวต่างชาติ ที่มีประวัติว่ามีเพศสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศกับผู้ป่วยด้วย

จึงฝากเตือนประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเพิ่มความระมัดระวัง ลดการสัมผัสใกล้ชิดกับคนแปลกหน้า เพื่อตัดความเสี่ยงติดเชื้อฝีดาษลิง และยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ อีกด้วย

เช่นเดียวกับ นายแพทย์ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว เผยลักษณะการติดเชื้อฝีดาษลิง มาในแนวเดียวกับเอชไอวี เมื่อหลายสิบปีก่อน แม้ฝีดาษลิงจะติดผ่านการสัมผัสเป็นหลัก แต่ก็สัมพันธ์กับกิจกรรมทางเพศในกลุ่มจำเพาะ เช่น เกย์ ไบเซ็กชวล เป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับหลักฐานวิชาการ ปัจจุบันตรวจพบสารพันธุกรรมของไวรัสฝีดาษลิงในแหล่งอื่น นอกจากแผลตุ่มหนองตามผิวหนัง เช่น อสุจิ เลือด ปัสสาวะ เป็นต้น 

จึงขอเตือนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง รวมถึงคนในอุตสาหกรรมบริการ เพิ่มความระมัดระวัง หมั่นสังเกตอาการผิดปกติทั้งของผู้อื่นและตนเอง เลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า หรือ ที่เพิ่งรู้จัก ไม่ว่าจะไทยกันเอง รวมถึง ชาวต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยว

ด้าน นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวยืนยันการพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 2 ไม่ได้เกิดจากชายชาวไนจีเรีย ที่ป่วยเป็นโรคฝีดาษรายแรก ตามที่มีข่าวลือว่าตัวเชื้อไวรัสที่พบมีความใกล้เคียงกันมาก พร้อมย้ำว่าผลตรวจหาเชื้อฝีดาษผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยรายแรกทั้งหมดเป็นลบ

ขณะที่ แพทย์หญิงนฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์ กล่าวว่า จะเร่งทำแนวทางรักษาโรคฝีดาษลิง เสนอที่ประชุม อีโอซี กระทรวงสาธารณสุขในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.) คาดว่า อาจจะมีการหารือถึงกรณีการพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายล่าสุดด้วย

ส่วนสถานการณ์โรคฝีดาษลิงทั่วโลก มีผู้ป่วยยืนยันแล้วกว่า 20,600 คน ใน 77 ประเทศ พื้นที่แพร่ระบาดส่วนใหญ่ ยังพบอยู่ในแถบทวีปยุโรป และส่วนใหญ่เป็นเพศชายเกือบทั้งหมด