รวบผู้ต้องหาชาวจีน 3 คน อุ้มนักธุรกิจเรียกเงิน 10 ล้านบาท

เช้านี้ที่หมอชิต - มีนักธุรกิจสัญชาติจีน ถูกคนร้าย 3 คน อุ้มตัวไปเรียกเงิน 10 ล้าน แต่เคราะห์ดีผู้เสียหายทำมือถือหาย คนร้ายจึงไม่ได้เงินไป แต่ก็ถูกบังคับเอานาฬิกาหรูไปแทน ก่อนที่คนร้ายจะถูกตำรวจจับกุมตัวได้คาสนามบิน

เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของแมนชันแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง บันทึกเหตุการณ์ช่วงประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักธุรกิจสัญชาติวานูอาตู เชื้อชาติจีน กำลังจะไปขึ้นรถที่จอดอยู่ในแมนชันดังกล่าว จู่ ๆ ชายคนหนึ่งก็ได้วิ่งเข้าไปล็อกตัวผู้เสียหาย และมีชายอีกคนหนึ่งเข้าไปช่วยล็อกตัว พร้อม ๆ กับที่ รถยนต์เอนกประสงค์ขับออกมาจากจุดจอดรถ มารับตัวผู้ก่อเหตุ และพาตัวผู้เสียหายขึ้นรถไป

หลังเกิดเหตุแฟนสาวได้รีบแจ้งตำรวจ สน.วังทองหลาง ให้การช่วยเหลือ จึงประสานตำรวจสืบสวนนครบาล 4 เร่งติดตามแกะรอยคนร้ายทันที กระทั่งต่อมาผู้เสียหายได้รับการปล่อยตัวที่ย่านวัดลาดปลาดุก จังหวัดนนทบุรี ส่วนคนร้ายได้รีบหลบหนี เตรียมเดินทางออกนอกประเทศ แต่สุดท้ายไปไม่รอด ถูกจับกุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนจะถูกพาตัวมาสอบสวน ที่ สน.วังทองหลาง

พันตำรวจเอก สุพล ค้ำชู รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ที่ไปประชุมติดตามความคืบหน้าคดี ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใด ๆ กับสื่อมวลชน ระหว่างเดินทางกลับได้ โดยอ้างว่ามาติดตามภาพรวมการปฏิบัติงานของ สน.วังทองหลาง ยังไม่ได้รับรายงานคดีนี้

ขณะที่พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ได้พาตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จากห้องควบคุมไปสอบสวน โดยมีล่ามภาษาจีนจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นผู้คอยสื่อสาร และมีทนายความของผู้ต้องหาเข้ารับฟังการสอบสวน

โดยมีข้อมูลรายงานข่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นคนสัญชาติจีนทั้งหมด หนึ่งในจำนวนนี้เคยเป็นลูกหนี้เก่าที่เคยขอยืมเงินผู้เสียหายมาก่อน ขณะก่อเหตุคนร้ายได้พยายามบังคับให้ผู้เสียหายโอนเงิน 10 ล้านบาทให้ แต่ผู้เสียหายไม่สามารถโอนเงินให้ได้ เนื่องจากโทรศัพท์ที่มีแอปพลิเคชันธนาคาร ตกอยู่ที่แมนชันที่เป็นจุดลักพาตัว ช่วงที่เกิดการชุลมุนกัน ผู้ต้องหาจึงทำได้แค่เอาทรัพย์สินมีค่าที่หลงเหลืออยู่ภายในตัว ซึ่งเป็นนาฬิกาหรูของผู้เสียหายหลบหนีไป ส่วนรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ พบว่าเป็นรถเช่ายืม ซึ่งหลังจากก่อเหตุเสร็จแล้ว ได้ขับหลบหนีไปจอดทิ้งไว้ที่ย่านร่มเกล้า เขตลาดกระบัง

เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหาฐานร่วมกันปล้นทรัพย์, กรรโชกทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว กับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ก่อนจะพาตัวไปขออำนาจศาลฝากขังไม่เกินภายในวันเสาร์นี้