วินาทีรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขณะส่งคนไทยข้ามแดน จ.สระแก้ว

ข่าวภูมิภาค 29 กรกฎาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - หลังจากตำรวจตามล่ามาพักใหญ่ ก็หนีไม่พ้นกฎหมาย ล่าสุด ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สนธิกำลังกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ รวบตัวผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ทั้งหมด 3 คน เพื่อตัดวงจรขบวนการส่งคนไทยข้ามแดนไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สนธิกำลังกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตัดวงจรขบวนการส่งคนไทยข้ามแดนไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยใช้แผนให้สายลับอำพราง ติดต่อสมัครเข้าไปเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นเฝ้าติดตามพฤติกรรมที่ขบวนการดังกล่าว จนถึงวันที่จะส่งตัวสายลับพาไปข้ามแดนเพื่อไปทำงาน จึงทำให้ชุดปฏิบัติการขับรถตามประกบรถคนร้ายขณะไปส่งตัวสายลับ จนสามารถใช้ยุทธวิธี "คาร์บล็อก" หยุดรถคนร้ายได้ที่ถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าไปทางชายแดนไทย-กัมพูชา ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยมี นายอรรถชัย มีโพธิ์ อายุ 30 ปี เป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าว และถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันใช้อุบายหลอกลวง พาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักร" พร้อมยึดรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุเป็นของกลางในคดี

จากการตรวจสอบประวัติต้องโทษของ นายอรรถชัย มีโพธิ์ พบว่าเคยถูกดำเนินคดีมาแล้วหลายคดี ทั้งคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และคดีนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร นายอรรถชัย ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้รับการประสานงานจากผู้ร่วมขบวนการในประเทศกัมพูชา ให้มารับคนไทยข้ามไปทำงาน โดยจะพาไปข้ามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นลำคลองเล็ก ๆ โดยจะมีเรือพาข้ามแดนไป และมีคนมารับช่วงต่ออีก ซึ่งตนเองทำงานแบบนี้ให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลายแก๊ง โดยจะส่งคนไปทำงานประมาณ 15-20 คนต่อเดือน รับค่าหัวเป็นเงิน 6,000 บาทต่อคน แม้ว่าล่าสุดที่ถูกจับกุมไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยังคงอยู่ในระหว่างการประกันตัวสู้คดี แต่ก็กลับมาทำงานเช่นนี้อีก เพราะชินและไม่รู้จะไปทำงานอะไร

ต่อมาขยายผลขบวนการดังกล่าว พบพยานหลักฐานความเชื่อมโยงผู้ต้องหาอีก 2 คน ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ได้แก่ นางสาวรุ่งฤดี อุดมดี อายุ 38 ปี ชาวอุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ และ นายพงษ์ธนา พิมพา อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหาเดียวกันกับ นางรุ่งฤดี

ฝากเตือนประชาชนคนไทยที่กำลังมองหางาน หากเป็นงานที่ต้องไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนใหญ่จะบอกว่าเป็น "แอดมิน" แต่เมื่อทำไปแล้วจะเป็นคอลเซ็นเตอร์ หากตกหลุมพรางเข้าร่วมขบวนการไปแล้ว การกลับเข้าประเทศจะกลายเป็นอาชญากรทันที ไม่ใช่เหยื่อแต่อย่างใด