ผลพวงศึกซักฟอก เพื่อไทย ยื่น ป.ป.ช. ฟันมาตรา 157 รัฐมนตรี 2 คน

เช้านี้ที่หมอชิต - ผลพวงจากศึกซักฟอกยังตามมาเป็นระลอก โดย 2 รัฐมนตรี คิวแรก ที่จะถูกยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบการทุจริตในวันนี้ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เรียกว่าโดนยกกระทรวง จากปมประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี 

เป็นไฮไลต์คำอภิปรายและคำชี้แจงว่าด้วยเรื่องการประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี ที่จบในสภา แต่นอกสภายังไม่ยุติ โดยวันนี้จะไปยื่นให้ ป.ป.ช.เอาผิดมาตรา 157 ทั้งกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบอย่างร้ายแรง และ ผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 เพราะไม่เปิดให้เกิดการแข่งขันโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี อย่างเป็นธรรม

หลังจบศึกซักฟอก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้รับความไว้วางใจในสภา ก็ทำให้ กรมธนารักษ์ เตรียมเดินหน้าเซ็นสัญญากับผู้ชนะประมูล คือ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ภายในเดือนนี้

สำหรับเส้นทางการประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 คัดเลือกบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ดำเนินการเป็นเวลา 30 ปี วงเงิน 25,000 ล้านบาท มีแผนลงนามในสัญญาวันที่ 3 พฤษภาคม แต่ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากมีข้อร้องเรียนจากหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน และ นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล สส.กลุ่ม 16 ที่ออกมาคัดค้านอย่างหนักในขณะนั้น ก่อนที่จะเปลี่ยนใจ ยกมือโหวตให้ นายสันติ ตามความต้องการของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ

โดยหลังจากการลงมติเสร็จสิ้น ในโลกออนไลน์ก็มีการแชร์คลิปของ นายพิเชษฐ ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย และ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม มีเนื้อหายอมรับอยู่ในความดูแลและพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของ พลเอกประวิตร

เนื้อหาในคลิปดังกล่าว ถูกมองว่าน่าจะเข้าข่ายขัดกฎหมายพรรคการเมือง ให้คนอื่นครอบงำพรรค มีโทษถึงขั้นยุบพรรค โดยเป็นหน้าที่ของ กกต.ต้องตรวจสอบและส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

เรียกว่าควันหลงจากศึกซักฟอก ยังไม่จบจ่าย ๆ และยังแตกประเด็นออกไปหลายแง่มุมที่คอการเมืองยังต้องตามกันต่อ