ไรเดอร์หนุ่มยังคาใจ ถูกแจ้งข้อหาประมาทร่วม

เช้านี้ที่หมอชิต - จากกรณีไรเดอร์หนุ่มขี่รถจักรยานยนต์แทรกระหว่างเลน แล้วถูกรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีที่ขับตามหลังมาอย่างเร็วพุ่งเข้าชน จนทำให้มีรถยนต์อีก 2 คัน ได้รับความเสียหายไปด้วย คดีนี้ตำรวจแจ้งดำเนินคดีทั้งไรเดอร์หนุ่มและคู่กรณี ฐานประมาทร่วม แต่ไรเดอร์หนุ่มยังคงคาใจที่ถูกตั้งข้อหานี้ เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจอีกรอบ

โดยไรเดอร์หนุ่มพร้อมกับญาติ เข้าไปพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่ สน.พหลโยธิน อีกครั้ง โดยนำคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปให้ตำรวจทำการตรวจสอบ เพื่อขอคำอธิบายเรื่องที่ถูกแจ้งว่าเป็นการกระทำประมาทร่วม ส่งผลทำให้ตนเองต้องรับผิดชอบซ่อมรถยนต์ 1 คัน พร้อมทั้งขอความเป็นธรรม เพราะคิดว่าอุบัติเหตุนี้ตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายทำให้เกิดขึ้น

ญาติของไรเดอร์หนุ่ม ยอมรับว่าไม่เข้าใจข้อกฎหมาย หากเป็นการประมาทจริง ๆ ก็จะยอมรับ แต่จากคลิปก็เห็นว่าคู่กรณีขี่รถมาชนท้าย ทำให้เกิดอุบัติเหตุต่อเนื่อง จึงนำคลิปมาสอบถามตำรวจ หากชี้แจงให้เข้าใจได้ ก็พร้อมจะยอมรับ

สำหรับเรื่องข้อหาประมาทร่วมที่ไรเดอร์หนุ่มถูกแจ้งดำเนินคดี และโลกโซเชียลข้องใจนั้น วันนี้เรามาย้ำคำตอบอีกครั้ง โดย ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ให้ความเห็นว่าการขับขี่รถบนท้องถนน กฎหมายกำหนดไม่ให้แทรกระหว่างเลน และให้ทิ้งช่องว่างระหว่างคันด้วย การที่รถจักรยานยนต์ของไรเดอร์ ขี่มาแทรกระหว่างเลน ตามกฎหมายถือว่ามีส่วนประมาท เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็ต้องถือว่าเป็นความประมาทร่วม แต่น้องไรเดอร์สามารถไปฟ้องร้องให้คู่กรณีที่ขี่รถจักรยานยนต์มาชน ชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดได้ เพราะถือว่าเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังพบว่าเคยมีฎีกาที่ระบุกรณีลักษณะนี้ว่า ถึงคนขับรถจักรยานยนต์คันแรกไม่ได้เป็นต้นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่การขี่คร่อมเลนถือเป็นการประมาทร่วม แต่รถของโจทย์ถูกรถของจำเลยชน โดยประมาทขวางอยู่กลางถนน แล้วถูกรถของบุคคลอื่นซ้ำ แม้จะก่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น ก็เป็นผลโดยตรงอันเกิดจากฝ่ายจำเลยเป็นผู้ก่อขึ้นก่อน โจทย์สามารถฟ้องแย้งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลยได้