เอาผิดเพิ่ม ขาใหญ่ขู่ฆ่าสาวพีอาร์

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจเร่งสอบสวนขยายผล หลังจับกุมผู้ต้องหาที่ใช้อาวุธปืนบีบีกันไปข่มขู่สาวพีอาร์ เรียกเงินคืน เพราะไม่พอใจที่ดูแลบริการไม่ดี พร้อมขยายผลตรวจสอบประวัติที่พบว่า อาจไปเกี่ยวข้องกับแก๊งเงินกู้นอกระบบด้วย

ความคืบหน้าคดีที่หญิงสาวอาชีพ "พีอาร์" 3 คน จากทั้งหมด 7 คน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ว่าถูก นายเอกพล ข่มขู่คุกคามและใช้อาวุธปืนขู่ฆ่า จากความไม่พอใจเรื่องที่อ้างว่าไม่พอใจผู้เสียหาย ซึ่งถูกว่าจ้างให้ไปดูแลในงานเลี้ยงวันเกิด แล้วบริการไม่ดี เหตุเกิดหลายพื้นที่ช่วงระหว่างคืนวันที่ 28 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ล่าสุดตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ได้เชิญตัว นายเอกพล มาแจ้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อหาอื่นเพิ่มเติม หลังพบอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนบีบีกันลักษณะคล้ายมีการดัดแปลงสภาพ ซึ่งได้ส่งให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ไปตรวจสอบว่าเข้าข่ายเป็นอาวุธปืนหรือไม่ ส่วนนายเอกพล ได้ให้การภาคเสธ ยอมรับว่าเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ ไม่มีเจตนาฆ่า เพียงนำไปขู่ให้เกิดความหวาดกลัวเท่านั้น

ขณะที่ พลตำรวจตรี นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ดูแลการกระทำผิดเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบ ได้ให้ตรวจสอบข้อมูลว่า นายเอกพล ได้ไปกระทำผิดอื่นหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยเงินกู้นอกระบบ หากพบหลักฐานว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินคดีในส่วนนี้เพิ่ม ส่วนการตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหา เบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่น

ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่ามีกลุ่มตำรวจในและนอกเครื่องแบบไปร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าเป็นตำรวจชั้นผู้น้อยจริง ขณะนี้ต้นสังกัดอยู่ระหว่างเรียกตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริง ถึงสาเหตุที่ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว เพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายกระทำผิดวินัยหรือไม่

สำหรับประวัติของนายเอกพลนั้น เคยถูกดำเนินคดีความผิดต่อเสรีภาพ ในเหตุการณ์บุกไปข่มขู่และอุ้มคนในงานบวชไปทำร้ายร่างกาย เมื่อปี 2563 โดยเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปลายปี 2564 จากนั้นได้ออกมาประกอบอาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ แต่ยังไม่ถึงขั้นมีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพล และไม่พบว่าเคยก่อเหตุยิงต่อสู้ตำรวจตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด