ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ลุ้น ซ่อม หรือ ทุบ สะพานกลับรถ ถนนพระราม 2 จ.สมุทรสาคร

เช้านี้ที่หมอชิต - วันนี้ผู้ใช้เส้นทางฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ตรงจุดสะพานกลับรถ ช่วงกิโลเมตรที่ 34 ถนนพระราม 2 หรือ หน้าโรงพยาบาลวิภาราม ก็ไม่ต้องทรมานกับสภาพการจราจรติดขัด เพราะเมื่อคืนนี้ กรมทางหลวงเข้ารื้อถอนคาน 4 ตัว บนสะพานกลับรถออกแล้ว และในวันนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม เตรียมลงพื้นที่เก็บข้อมูลด้านความแข็งแรงของสะพานกลับรถแห่งนี้ว่าจะซ่อมบำรุงใช้งานต่อ หรือ สั่งรื้อทั้งสะพานเพื่อก่อสร้างใหม่ต่อไป

เมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการรื้อถอนคานสะพานกลับรถ ช่วงกิโลเมตรที่ 34 ถนนพระราม 2 หรือ หน้าโรงพยาบาลวิภาราม ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุแผ่นปูนถล่มทับรถยนต์จนมีผู้เสียชีวิต โดยการรื้อถอนคานครั้งนี้ มีด้วยกัน 4 ตัว ซึ่งเกิดขึ้นหลังวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสะพานดังกล่าว พบสภาพชำรุดบริเวณคาน และคอนกรีตเสริมเหล็กในส่วนที่ยังคงค้างอยู่

โดยผลการวิเคราะห์ คาดว่า สาเหตุที่ทำให้แผงกั้นขอบทางหล่นลงมาทับรถของประชาชน เกิดจากการรื้อพื้นคอนกรีตออก ทำให้รองรับน้ำหนักแผงกั้นไม่ไหว จึงจะนำข้อมูลลักษณะทางกายภาพไปศึกษาในเชิงลึก เพื่อหาสาเหตุอีกครั้ง รวมถึงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงสร้างสะพานกลับรถจุดเกิดเหตุ และจุดอื่น ๆ อีก16 แห่งว่า มีความแข็งแรงหรือไม่

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า วันนี้จะร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมลงพื้นที่เก็บข้อมูลด้านความแข็งแรง และปลอดภัยของสะพานกลับรถแห่งนี้อีกครั้ง เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาว่าจะมีการซ่อมบำรุงเพื่อใช้งานต่อไป หรือ อาจสั่งทุบทิ้ง

ด้าน พ.ต.อ.ยงลิต ศุภผล รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร กล่าวถึงการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องกรณีแผ่นปูนหล่นลงมาทับรถยนต์จนมีผู้เสียชีวิตว่าได้สอบปากคำผู้ควบคุมงาน วิศวกร ผู้ช่วยวิศวกร และผู้เสียหายแล้วประมาณ 20 คน ประเด็นสำคัญเป็นเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน วิธีการซ่อมแซมสะพานกลับรถว่ามีความรอบคอบมากน้อยเพียงใด

ซึ่งคนงานให้การว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีวิศวกรที่ได้รับใบอนุญาตควบคุมงาน มีเพียงหัวหน้าคนงานดูแลอยู่ที่หน้างานเท่านั้น โดยกรณีนี้ก็ยังต้องรอพยานหลักฐานที่ไปตรวจสอบร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และผลการสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป

ขณะที่อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวยืนยันว่า วิศวกรที่ดำเนินงานนี้มีใบอนุญาตควบคุมงาน และอยากให้รอผลตรวจสอบจากคณะกรรมการฯ ว่า ในช่วงเกิดเหตุมีความผิดพลาดจากสาเหตุใด หากพบว่าเกิดจากการประเมินเลินเล่อของผู้ปฏิบัติงานก็จะดำเนินการตามกฎระเบียบ และขั้นตอนโดยไม่มีการยกเว้นโทษอย่างเด็ดขาด

และเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน คปภ.ภาค 7 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเกี่ยวกับการทำประกันภัยของผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งนี้ พบว่า รถยนต์ทั้ง 3 คันที่ได้รับความเสียหายมีการทำประกันภัย โดยในส่วนของรถเก๋ง ทำประกันไว้กับบริษัทธนชาติประกันภัย จำกัด (มหาชน) รถกระบะ ทำประกันกับบริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และรถบรรทุกน้ำมัน ทำประกันภัยกับบริษัทสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) ส่วนคนงานที่เสียชีวิตมีการทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้กับบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทาง คปภ.จะได้ช่วยติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark