ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ตีตรงจุด : ผลกระทบไทย จากสัมพันธ์ร้าว สหรัฐฯ - จีน

เช้านี้ที่หมอชิต - ตีตรงจุด วันนี้ ปักหมุดเรื่องใหญ่ ที่เป็นเหตุให้โลกระอุ จากการเดินทางเยือนไต้หวันของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา แม้วันนี้เธอจะบินลัดฟ้าข้ามไปประเทศเกาหลีใต้แล้ว แต่การเหยียบแผ่นดินไต้หวันเพียงไม่กี่ชั่วโมง ได้ทิ้งรอยร้าวลึกระหว่างมหาอำนาจ จีน กับ สหรัฐฯ ที่ทำให้ทั่วโลกต้องจับตามอง และแน่นอนว่า ประเทศไทยเองก็ต้องมีจุดยืนที่เหมาะสมในวงล้อมของ 2 มหาอำนาจ ด้วย

เริ่มจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำราชอาณาจักรไทย ออกแถลงการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก โจมตีพฤติกรรมของแนนซี ว่า ฝ่าฝืนหลักการประเทศจีนเดียว บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างร้ายแรง อีกทั้งยังส่งสัญญาณถึงรัฐบาลไทยเกี่ยวกับจุดยืนจีนว่ามีเพียงประเทศเดียว ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งที่แบ่งแยกไม่ได้ โดยหวังว่ารัฐบาลไทยจะสนับสนุนจุดยืนของประเทศจีนอย่างที่เคยปฏิบัติมา ซึ่งในมุมมองของนักวิชาการด้านความมั่นคงระหว่างประเทศเห็นว่า ไทยต้องมีจุดยืนที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

เรื่องนี้ รัฐบาลไทย โดย นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ออกมายืนยัน ไทยยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว และไม่ประสงค์ที่จะเห็นการดำเนินการใด ๆ ที่จะเพิ่มความตึงเครียด และบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

ขณะที่ การปิดล้อมด้านเศรษฐกิจที่จีนตอบโต้ไต้หวัน โดยมีการสั่งระงับการนำเข้าสินค้าจากไต้หวันกว่า 2,000 ชนิด จากทั้งหมด 3,200 ชนิด ก็ทำให้ภาคเอกชนไทยมองว่า เราจะได้อานิสงส์เชิงบวก แต่ก็ไม่อยากเห็นการเผชิญหน้าระหว่าง จีน ไต้หวัน และ จีน กับ สหรัฐฯ โดยเฉพาะการใช้อาวุธ

ท่ามกลางความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่าง จีน สหรัฐฯ และ ไต้หวัน นักวิชาการด้านความมั่นคงมองว่า อาจส่งผลทางบวกต่อการเลือกตั้ง สำหรับผู้นำของทั้ง 3 ประเทศ

อย่างที่ อาจารย์ปณิธาน วิเคราะห์ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นปลุกความรู้สึกชาตินิยมของแต่ละประเทศขึ้นมา ล่าสุด แม้แต่ แจ็กสัน หวัง ศิลปินชื่อดัง ที่มีคนติดตามกว่า 30.8 ล้านแอ็กเคานต์ ก็ออกมาโพสต์อักษรจีน 2 บรรทัด มีความหมายว่า "บนโลกนี้มีแค่จีนเดียว"

และในประเทศไทยก็เรียกว่าให้ความสนใจกับประเด็นที่เกิดขึ้น ถึงขั้นแฮชแท็กไต้หวัน ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่งกันเลยทีเดียว

ขณะที่วันนี้จะเป็นวันแรกของปฏิบัติการทางทหารแบบมีเป้าหมาย ที่จีนจะตอบโต้การเยือนไต้หวันของ แนนซี ด้วยการซ้อมรบในเขตจำเพาะ 6 แห่ง รอบไต้หวัน ด้วยกระสุนจริง ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม นักวิชาการด้านความมั่นคงเห็นว่าเป็นสถานการณ์เปราะบางที่ต้องจับตา เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ไปจนถึงหากจีนใช้แรงกดดันทางการทหาร ตัดสินใจวางกำลังกึ่งถาวรประชิดไต้หวันมากขึ้น เหมือนที่ประสบความสำเร็จในทะเลจีนใต้ และไม่มีใครกล้าผลักดันจีนออกไป ปัญหาก็จะตกหนักกลับมาที่สหรัฐฯ ว่าจะผลักดันจีนหรือไม่ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์มีความสุ่มเสี่ยงมากขึ้น

การซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของจีน ทำให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์แจ้งทุกสายการบินสัญชาติไทยที่จะเดินทางเข้า-ออก ให้เลี่ยงเส้นทางบินเหนือบริเวณน่านฟ้ารอบ ๆ ไต้หวัน หลังจีนประกาศพื้นที่ซ้อมรบ และเตือนสายการบินในเอเชียหลีกเลี่ยงการบินรอบ ๆ ไต้หวัน ที่ถูกกำหนดให้พื้นที่ซ้อมรบเป็น "เขตอันตราย"

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินอากาศไทย CAAT จึงได้ขอให้หลีกเลี่ยงทำการบินผ่านเส้นทางบริเวณดังกล่าว 

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark