ตำรวจยัน สรุปสำนวน ดารุมะ ส่งฟ้องต้น ก.ย.นี้

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจ ปคบ. เดินหน้าสรุปสำนวนคดี ดารุมะ ซูชิ เพื่อเตรียมส่งฟ้อง ต้นกันยายนนี้ พร้อมยืนยันการเปิดให้ผู้เสียหายไปใช้คูปองกินอาหารได้ ก็จะไม่กระทบการดำเนินคดี

ทีมข่าวของเราเดินทางไปที่ร้าน "มาม่า ดารุมะ ซูชิ" ที่อุดมสุข 58 ซึ่งเป็นสาขาเดียวที่รีแบรนด์ และกลับมาเปิดให้บริการ รับคูปองบุฟเฟต์จากลูกค้าของ "ดารุมะ ซูชิ บุฟเฟต์ แซลมอน" ที่ตกเป็นข่าวดังคดีฉ้อโกงผู้บริโภค ก่อนหน้านี้

โดยบรรยากาศคึกคักตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด มีลูกค้าที่ซื้อคูปองที่จัดโพรโมชันลดราคา และจองคิวมารอหน้าร้านก่อนเวลา จากการสอบถามหลายคนคิดว่าคงสูญเงิน เสียสิทธิไปแล้ว แต่พอรู้ว่ามีการรีแบรนด์ร้าน และเปิดให้นำคูปองมาใช้ได้ จึงรีบโทรจองรอบ บางคนจองใช้สิทธิตามจำนวนคูปองที่เหลือทั้งหมดเลย เพราะไม่มั่นใจว่าร้านจะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือปิดให้บริการอีกหรือไม่ หลายคนยอมเสียเงินค่าเดินทางมาที่สาขานี้ แพงกว่าที่จ่ายซื้อคูปอง ที่สำคัญในกลุ่มไลน์ผู้เสียหายมีการคุยกันว่า หากใช้สิทธิแล้วอาจถอนแจ้งความ

นอกจากลูกค้าที่มาใช้สิทธิตามรอบแล้ว ยังมีลูกค้าที่เดินทางมาจองรอบใช้สิทธิคูปองกับพนักงานหน้าร้านเพราะโทรไม่ติด ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้คิวของร้านเต็มไปถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้าแล้ว 

ทีมข่าวยังได้เปิดใจตัวแทนผู้บริหารของร้าน มาม่า ดารุมะ ซูชิ คือ นายอนุสรณ์ รัตนนันท์ ซึ่งเป็นทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก นายเมธา ชลิงสุข ผู้บริหาร ดารุมะ ซูชิ เขาบอกว่าการเปิดร้านเป็นความตั้งใจของเครือญาตินายเมธา ที่ต้องการจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับ นายเมธา ว่าไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา แต่เพราะสถานการณ์โควิด-19 บวกกับวิกฤตเศรษฐกิจ ยืนยันว่า ไม่ได้เปิดเพื่อจะนำมาใช้เป็นเหตุผลขอลดโทษ และอยากขอความเป็นธรรมให้กับนายเมธาด้วย

สำหรับคดีนี้ ปัจจุบัน นายเมธา ยังถูกควบคุมตัวในเรือนจำ และถูกแจ้ง 3 ข้อหา คือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และร่วมกันฟอกเงิน คาดว่าจะสรุปสำนวนส่งฟ้องได้ต้นเดือนกันยายนนี้ และประสาน ปปง. ดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินด้วย หลังพบว่า นายเมธา โยกย้ายทรัพย์จากบัญชีบริษัทไปใส่ในบัญชีส่วนตัว และบุคคลภายนอก ซึ่งล่าสุดตำรวจออกหมายเรียก 12 บุคคล ที่ นายเมธา โอนเงินไปเข้าบัญชี ให้เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจแล้ว

ส่วนที่ผู้เสียหายจะถอนแจ้งความหลังได้ใช้คูปอง ตำรวจยืนยันว่า ไม่มีผลต่อคดี เพราะความผิดสำเร็จแล้ว แต่อาจถือเป็นขั้นตอนเยียวยาผู้เสียหาย ที่ผู้ต้องหาจะนำไปขอใช้บรรเทาโทษเท่านั้น