ตีตรงจุด : แก๊งโจ๋อุบลฯ เปิดศึกยิงกัน เหตุอุกอาจหรือหละหลวม?

เช้านี้ที่หมอชิต - ตีตรงจุดวันนี้ เรามาดูเหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้นในจังหวัดอุบลราชธานี หลังมีแก๊งโจ๋เปิดศึกใช้ปืนทั้งปืนกล ปืนลุกซองกระหน่ำยิงกัน จนมีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดแก๊งวัยรุ่นขนปืนเข้าไปในพื้นที่ได้มากขนาดนั้น ขณะที่พบว่าแก๊งวัยรุ่นกลุ่่มนี้ไม่ธรรมดา ชอบโพสต์รูปคู่กับปืนชนิดต่าง ๆ

เริ่มที่ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องบินด่วนลงมากำกับดูแล เหตุวัยรุ่นกราดยิงกันที่ร้านอาหารกึ่งผับ ในลานบิ๊กซี หลัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งเร่งหาคนก่อเหตุ และตรวจสอบประวัติย้อนหลังกลุ่มที่ก่อเหตุ โดยนอกจากสั่งไล่ล่าจับแก๊งวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ยังให้ตามยึดอาวุธที่ใช้ก่อเหตุทั้งหมดด้วย เพราะหนึ่งในผู้ต้องหาอ้างว่าสั่งมาจากออนไลน์

ขณะผู้ต้องหาอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่แล้ว 12 คน และมีผู้เสียชีวิต 3 คน โดยเชื่อว่าคดีนี้น่าจะมีคนเกี่ยวข้องอีกหลายคน

ขณะพนักงานสอบสวนคุมตัวนายภิวัฒน์ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน ผู้ก่อเหตุที่ยอมมอบตัวหลังเกิดเหตุ มาสอบปากคำเพื่อหาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในเหตุการณ์ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ขนาด 11 มม. ลูกซองและปืนยาวหลายชนิด ตกอยู่ที่พื้นถนนกว่า 50 ปลอก รถยนต์ของประชาชนที่จอดอยู่บริเวณลานกว้างเสียหาย 5 คัน และรถจักรยานยนต์เสียหาย 7 คัน ส่วนสาเหตุของปัญหา พบว่า เกิดจากแก๊งขาโจ๋ 2 แก๊ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นการ์ดดูแลร้านเหล้ากึ่งผับ พญายอ และ ร้านเอกมัย 487 เคลียปัญหากันไม่ลงตัว

ส่วนความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ต่อเหตุการณ์แก๊งโจ๋ใช้ปืนยิงถล่มกันเป็นไปอย่างดุเดือด ดันแฮชแท็ก กราดยิงอุบล ขึ้นเป็นอันดับ 1 ตลอดทั้งคืน คอมเมนต์ก็ดุเดือด หลังมีคนไปพบว่า คนที่เสียชีวิตแก๊งขามใหญ่ การ์ดร้านพญายอ และแก๊งหาดวัดใต้ การ์ดร้านเอกมัย 487 แก๊งโจ๋กลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมชอบสักลาย และโพสต์รูปพี่น้องในแก๊งกับปืนชนิดต่าง ๆ บางคนโพสต์ภาพคู่กับปืน และใบอนุญาต ล่าสุดมีการโพสต์เตรียมเอาคืนจากสมาชิกในแก๊ง

ขณะมีคนไปขุดประวัติของ อุ้ย 15 เด็กนรก ซึ่งปัจจุบันเป็นเหมือนผู้ใหญ่ ที่เด็กใน 2 แก๊งนี้เคารพนับถือว่า อุ้ย เป็นหัวโจก ที่ไปกับเพื่อน 15 คน อุ้มฆ่าเด็กอายุ 14 ปี ฝังดิน เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2549 เพราะหมั่นไส้ และเจ้าตัวก็เคยโพสต์ยอมรับในเฟซบุ๊ก และพร้อมกลับตัวกลับใจแล้ว

และยังมีโพสต์ที่พูดถึงโจ๋ที่เสียชีวิตทำนองว่ารู้จักทั้ง 2 คน ทั้ง 2 คนพี่น้องกัน และพยายามเตือนและห้ามแล้ว แต่โจ๋ทั้ง 2 กลุ่ม ไม่ยอมฟัง

ขณะที่ 1 ใน คนที่รู้จัก นายอุ้ย ปรากฎตัว และบอกว่า ก่อนเกิดเหตุ นายโชค อายุ 24 ปี ซึ่งทำงานอยู่กับร้านเอกมัย 487 และมีปัญหากับ นายเป็ด อายุ 37 ปี ฝั่งร้านพญายอ เรื่องไม่กินเส้น มีการเขม่นข่มกัน เพราะมีร้านอยู่ติดกัน โดยมีคนกลางช่วยเจรจา แต่สุดท้ายเคลียร์กันไมได้ประกอบกับทั้งสองฝ่ายมีการเตรียมเพื่อนไว้หน้าร้านแล้ว จึงเปิดฉากยิงกัน

ขณะมีข้อมูลจากองค์กรต่างประเทศที่รวบรวมข้อมูลอาวุธ ระบุว่า ประเทศไทย ครอบครองปืนเป็นอัน 13 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน

มีคนครอบครองปืนมากถึง 10.3 ล้านกระบอก แบ่งเป็นปืนมีทะเบียน 7 ล้านกระบอก ไม่มีทะเบียน 6 ล้านกระบอก และพบวาในคนไทย 100 คน จะมี 15 คนที่ครอบครองปืน

ขณะที่มีอีกประเด็นน่าสนใจ เพราะหากดูจากสถานที่เกิดเหตุ พบว่า จุดเกิดเหตุเป็นลานกว้าง และมีร้านอาหารกึ่งผับล้อมรอบเป็นตัวแอล รอบข้างเป็นห้างสรรพสินค้า และมีถนนและซอยย่อยจำนวนมาก สามารถเข้าออกได้หลายทาง ทุกเส้นทางสามารถเชื่อมไปถนนใหญ่ได้ โดยมีชาวบ้านให้ข้อมูลจุดนี้จะมีนักเที่ยวมามั่วสุม และค่อนข้างหละหลวม เพราะที่ผ่านมามีเหตุทะเลาะวิวาทบ่อย บางทีเอาค้อน เอามีดเข้ามาได้ หลายคนจึงขนานนามว่าที่นี่คือลานสนามรบ

มีข้อมูลว่า พื้นที่เกิดเหตุเป็นที่เอกชน และเป็นพื้นที่เปิด ทำให้การตรวจสอบเป็นไปได้ยาก ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า จุดเกิดเหตุเป็นเหมือนร้านเหล้าทั่วไป ไม่ได้เทียบเท่าสถานบันเทิง ทำให้การตรวจสอบหละหลวม และเมื่อมีเหตุการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่จึงไม่ทันท่วงทีหรือไม่

ข้อสังเกตนี้ยิ่งชัดเจนมากขึ้น เพราะ 1 ในประเด็นที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บินด่วนลงมา คือ มาให้แนวทางสืบสวนสอบสวน แต่ก็มีการพูดถึงการตรวจสอบเรื่องการปฏิบัติการระงับเหตุว่าเป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ด้วย

ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เซ็นคำสั่งย้ายพันตำรวจเอกอดิเทพ พิชาดุลย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม

โดยมีรายงานว่า พันตำรวจเอกดิเทพ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ป้องกันปราบปราม ไม่สามารถเข้าระงับเหตุได้โดยรวดเร็ว จนเป็นเหตุอุกอาจ มีการสูญชีวิตเกิดขึ้น และจะมีคำสั่งตั้งกรรมการให้ตรวจสอบข้อเท็จ เพื่อตรวจสอบว่าบกพร่องหรือไม่