คุมตัว อาบัง แก๊งเงินกู้อนาจารเด็กชาย ชี้จุดเกิดเหตุ

เช้านี้ที่หมอชิต - อาบัง เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ที่กระทำอนาจารเด็กชายอายุ 12 ขวบ เพื่อขัดดอกเงินกู้ที่พ่อแม่ไปกู้เอาไว้ ยังคงให้การปฏิเสธ ไม่ได้กระทำอนาจาร ขณะที่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานแน่นหนาที่จะเอาผิดได้

หลังทีมงานเพจสายไหมต้องรอด พาพ่อแม่ของเด็กชายอายุ 12 ขวบ ที่ถูก อาบัง เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ลักพาตัวไปกระทำอนาจารเพื่อขัดดอกที่ไปกู้ยืมเงินมา 4,000 บาท เหลือยอดหนี้ 950 บาท แต่ขาดส่ง 2 วัน เพราะขายของไม่ได้ ทำให้เจ้าหนี้เงินกู้รายนี้ ฉวยโอกาสอุ้มน้องขึ้นรถจักรยานยนต์ไปที่บ้านร้างย่านสายไหม แล้วบังคับกระทำอนาจาร

ต่อมาตำรวจไปจับกุมตัว นายยาเดฟ หรือ บังปล่อยเงินกู้ สัญชาติอินเดีย ได้ที่บ้านพักในซอยพหลโยธิน 48 มาสอบปากคำ พร้อมกับนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ นายยาเดฟ ยืนยันว่า ไม่ได้ก่อเหตุ แต่ยอมรับว่าเจอเด็กจริง แต่ไม่ได้กระทำอนาจาร ส่วนที่พ่อแม่เด็กแจ้งจับตนเองเพราะโกรธที่ตนเองไม่ยอมปล่อยเงินกู้ให้

ด้านเพื่อนของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า รู้จักกับ นายยาเดฟ มาประมาณ 5 ปี ปกติ นายยาเดฟ ทำงานขายผ้า มีแฟนสาวอยู่ที่อินเดีย รวมถึงไม่เคยมีพฤติกรรมลักษณะนี้มาก่อน แต่เท่าที่ได้พูดคุยสอบถาม นายยาเดฟ ก็ยืนยันว่าไม่ได้กระทำอนาจารผู้เสียหาย เพียงแค่พาเด็กผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์ไป และอ้างว่ากระทำการในเชิงหยอกล้อ

ผู้ต้องหาว่าอย่างนี้ แม่ของเด็กชายอายุ 12 ขวบ ผู้เสียหายว่าอย่างไงบ้าง แม่ บอกว่า หลังจากพาลูกไปหาหมอ อาการบวมอักเสบที่อวัยวะเพศยุบลงบ้างแล้ว แต่พบว่ามีตุ่มติดเชื้อขึ้นในช่องคอ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าติดเชื้อชนิดใด ฝากถึงผู้ต้องหาว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ควรทำแบบนี้กับเด็ก เพราะจะกระทบกับสภาพจิตใจเด็กไปตลอดชีวิต ควรออกมารับผิดชอบ ส่วนที่อ้างว่าที่ตนเองแจ้งจับผู้ต้องหา เพราะไม่พอใจที่ผู้ต้องหาไม่ให้ยืมเงินเพิ่ม ยืนยันไม่เป็นความจริง

ด้านคดี พันตำรวจโทสราวุธ บุตรดี รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.บางเขน ระบุว่า แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน โดยเฉพาะร่องรอยบาดแผลและคำให้การของน้องอายุ 12 ขวบ ซึ่งเพียงพอต่อการแจ้งข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และข้อหาเกี่ยวกับการหลบหนีเข้าเมือง เนื่องจาก นายยาเดฟ เข้ามาอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2562 และวีซาหมดอายุ

หลังจากนี้จะให้ชุดสืบสวนไปไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบจุดเกิดเหตุ และร่วมกับสหวิชาชีพ สอบปากคำเด็กชายผู้เสียหาย เพื่อนำมาประกอบสำนวนให้รัดกุมยิ่งขึ้น โดยในวันนี้จะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญา พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ และคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี