ตำรวจรวบแล้วแก๊งส่งน้ำแข็ง จ.อยุธยา เปิดศึกยิงกัน ปมขัดแย้งธุรกิจ

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีอุกอาจกลางเมืองพระนครศรีอยุธยา แก๊งรถส่งน้ำแข็งพันล้าน และอโยธยา ยิงปืนอย่างกับในหนัง ล่าสุดตำรวจจับผู้เกี่ยวข้องในที่เกิดเหตุได้ทั้งหมด เบื้องต้นรับสารภาพ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงสายวานนี้ โดยปรากฎรถแฮมเมอร์สีแดง และรถกระบะขับสีดำเป็นของกลุ่มโรงงานน้ำแข็งพันล้านขับมาปิดทางรถกระบะสีขาวของกลุ่มโรงงานน้ำแข็งอโยธยาที่มาจากฝั่งตรงข้าม จากนั้นมีรถโพล์คสีดำของฝ่ายปกครองขับตามมาติด ๆ ก่อนเกิดการชุลมุนยิงกันไปมา และวิ่งหลบหนี โดยรถกระบะสีดำกับแฮมเมอร์สีแดงขับแหวกวงล้อมออกไปได้ แต่ก็ไปจนมุมในเวลาต่อมา เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บมีจากทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนการตรวจค้นภายในรถตำรวจพบปืนหลายกระบอก ทั้งหมดจะถูกคุมตัวมาที่ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา

พลตำรวจตรี พัลลภ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำรวจสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ 13 คน บาดเจ็บ 2 คน แบ่งเป็นฝั่งพันล้าน 8 คน ฝั่งอโยธยา 2 คน และฝั่งฝ่ายปกครอง 3 คน โดยทั้งหมดแจ้งข้อหาชุลมุนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน พยายามฆ่า มีฝั่งฝ่ายปกครอง กับกลุ่มพันล้านที่ถูกดำเนินคดี โดยทั้งหมดรับสารภาพ ตำรวจยึดรถได้ 4 คัน ปืน 7 กระบอก โดยเบื้องต้นคาดว่าจากความขัดแย้งทางธุรกิจ

1 ในผู้ก่อเหตุฝั่งโรงน้ำแข็งพันล้าน ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้มีคนในกลุ่มมาขับรถส่งน้ำแข็งตามปกติ แต่พอกลุ่มอโยธยามาเห็น ก็ขับรถล้อมและมาทำร้ายร่างกาย จนล่าสุดเมื่อวานช่วงเช้ามีรถของกลุ่มอโยธยาหลายสิบคันมาล้อม และพยายามโบกให้รถของพันล้านหยุด ทำให้ตัวเองโทรศัพท์บอกผู้จัดการซึ่งเป็นคนขับรถแฮมเมอร์ ออกมาช่วยเหลือและมีการขับไล่กันจนมาถึงที่เกิดเหตุ 

ขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ไปตามจับแก๊งส่งน้ำแข็ง ให้สัมภาษณ์ก่อนที่ตัวเองจะตกเป็นผู้ต้องหาว่า ตามกลุ่มนี้มาเกือบสัปดาห์แล้ว เพราะมีชาวบ้านแจ้งว่า มีแก๊งส่งน้ำแข็งขับรถล้อมกันมีอาวุธ และทำร้ายร่างกายกัน จึงพยายามติดตามพฤติกรรม ซึ่งได้ช่วยเจรจาไปครั้งนึงแล้ว และวันเกิดเหตุก็แจ้งตำรวจพระนครศรีอยุธยาแล้วว่า อาจจะมีการก่อเหตุอีก โดยฝ่ายปกครองบอกว่า ระหว่างที่อยู่จุดเกิดเหตุ ฝั่งพันล้านนอกจากยิงปืนใส่รถกระบะของกลุ่มอโยธยา ยังหันมายิงใส่พวกตัวเองด้วย จึงต้องยิงสวนกลับไป

หลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลหาความขัดแย้งเชิงลึก เพราะก็มีการตั้งคำถามเช่นเดียวกันว่า หากเป็นเรื่องความขัดแย้งเรื่องการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะเรื่องวิ่งทับเส้นทางกันจริง ต้องมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมากหรือไม่ ถึงลงทุนนำปืนออกมากราดยิงกันอย่างอุกอาจแบบนี้