คลิปที่เกี่ยวข้อง

ประชาชนอ่วม ดอกเบี้ยขึ้นสูง กระทบสภาพคล่อง

ข่าวภูมิภาค 9 สิงหาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - ใครยังผ่อนบ้านผ่อนรถอยู่บ้าง 10 สิงหาคมนี้ ร้อนระอุ เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยจะประกาศทิศทางดอกเบี้ยนโยบายใหม่ หลายคนประเมินจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 0.25%

ช่วงบ่าย พรุ่งนี้ (10 ส.ค.) จับตา การตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะเคาะอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งหลายฝ่าย คาดการณ์ว่า กนง.จะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% บางคนประเมินว่า อาจขยับแรง 0.50% ซึ่งการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบเกือบ ๆ 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2561 การขยับดอกเบี้ยนโยบาย ก็เพื่อลดความร้อนแรงของภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งก็หมายความง่าย ๆ ว่า มูลค่าเงินของเรามันลดลง ส่วนหนึ่งมาจากสาเหตุที่สินค้าขยับราคาสูงขึ้น คุณเคยซื้อข้าวผัดกะเพราปีที่แล้ว จานละ 50 บาท มาปีนี้ซื้อเมนูเดิม ปริมาณเท่าเดิม แต่ต้องควักเงินเพิ่มเป็นจานละ 55 บาท ตรงนี้เท่ากับเงินเฟ้อปีนี้ ขยับขึ้นแล้ว 10% การขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็จะช่วยตรงนี้ได้ ซึ่งการลดทอนอำนาจการใช้จ่ายเงิน ผลดีเมื่อดอกเบี้ยสูง ก็อาจดึงดูดให้มีเงินไหลเข้าจากต่างประเทศ ส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่า การนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบจะราคาถูกลง แน่นอนว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงได้ด้วย แต่อีกด้านก็อาจทำให้เศรษฐกิจเติบโตแบบชะลอลง เพราะเมื่อดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ภาคธุรกิจก็จะชะลอ หรือลดการลงทุนลงด้วย ส่วนผลกระทบภาคครัวเรือน คือ หลายคนที่เป็นหนี้ต้องควักเงินจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม สุดท้ายเมื่อเงินที่หามาไม่พอชำระหนี้ แน่นอนเกิดหนี้เสีย ภาพการยึดรถ ยึดบ้าน มีให้เห็นแน่นอน เรียกได้ว่าอ่วมหนัก เพราะทุกวันนี้หลายคนก็แบกภาระค่าครองชีพที่พุ่งไม่หยุด ชนิดที่เรียกว่าหนักอึ้งกันอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ บริษัทศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือ เครดิตบูโรและหนี้นอกระบบ พบว่าประเทศไทยมีลูกหนี้อยู่ 95.33 ล้านบัญชี ในจำนวนนี้ พบว่า 79.3 ล้านบัญชีเป็นหนี้ที่อยู่ในระบบเครดิตบูโร และเริ่มพบสัญญาณว่า ลูกหนี้ 69.4 ล้านบัญชี อาจมีปัญหาการชำระหนี้ หลังพบบัญชีค้างชำระช่วงระยะเวลา 31-90 วัน หรือกลุ่มหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ รวม 1.736 ล้านบัญชี บัญชีที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อีกกว่า 8  ล้านบัญชี หากเจาะลึกลงไปจะพบว่า ลูกหนี้ที่ค้างชำระเริ่มมีสัดส่วนสูงขึ้น และเริ่มพบสัญญาณความเสี่ยงที่ลูกหนี้กลุ่มนี้จะมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ สุดท้ายกลายเป็นหนี้เสีย โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อ ที่ค้างชำระหนี้ 413,445 บัญชี ดังนั้นอาจมีครัวเรือนเกือบ 400,000 ครอบครัวที่อาจกำลังถูกยึดรถได้ในระยะข้างหน้า ส่วนสินเชื่อบ้าน ลูกหนี้ที่ค้างชำระ 1.08 แสนบัญชี เป็นไปได้สูง ที่ลูกหนี้กลุ่มนี้อาจจะสูญเสียบ้านในอนาคต

คงต้องวางแผน รายจ่ายให้ดี เข็มขัดที่รัดอยู่แล้วก็รัดเพิ่ม นักเศรษฐศาสตร์ประเมินหลังจากนี้ เศรษฐกิจจะค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้น ได้แต่บอกคำเดิม ๆ ว่า สู้กันต่อไป ไม่มีอะไรแย่กว่าที่ผ่านมาแล้ว สำหรับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark