ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

เตรียมจ่ายค่าไฟงวดหน้า หน่วยละ 4.72 บาท

รายการข่าว,ข่าวในประเทศ 16 สิงหาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - น่าจะจ่ายกันแน่ ๆ แล้วสำหรับค่าไฟฟ้า หลัง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ออกมาระบุ อัตราค่าไฟฟ้างวดเดือน กันยายนนี้ เรียกเก็บที่หน่วยละ 4 บาท 72 สตางค์

เตรียมจ่ายค่าไฟงวดหน้า หน่วยละ 4.72 บาท
แม้ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี จะสั่งให้ชะลอการประกาศปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ ค่าเอฟที ออกไปก่อน เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชน แต่ล่าสุด เฟซบุ๊ก สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. โพสต์ระบุ ค่าเอฟที เดือนกันยายน ถึง เดือนธันวาคม 2565 ปรับเพิ่มอีกหน่วยละ 68.66 สตางค์ ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่หน่วยละ 4 บาท 72 สตางค์ ซึ่งการขึ้นค่าเอฟทีช่วงปี 2565-2566 นี้ มีสาเหตุหลักมาจาก การใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจรเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย และเมียนมา ที่ปริมาณลดลง ทำให้มีความต้องการนำเข้า LNG มากกว่าที่ประมาณการไว้รวมทั้งเกิดจากความผันผวนของราคาก๊าซ LNG ในตลาดโลกซึ่งราคาสูงขึ้น จากเหตุสงครามยูเครน-รัสเซีย ส่วนที่จ่ายแน่ ๆ คือ เช้านี้ ราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ปรับขึ้นอีกลิตรละ 60 สตางค์ ส่วนราคาน้ำมันดีเซล ยังคงเดิมลิตรละ 34 บาท 94 สตางค์

เสนอขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 10%
รองศาสตราจารย์อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี เสนอให้ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอย่างน้อย 10% จากการระบุว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำให้ผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศเพียง 5-8% เท่ากับค่าจ้างขั้นต่ำที่แท้จริงแทบไม่มีการปรับขึ้น และในบางพื้นที่การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำแท้จริงติดลบด้วยซ้ำ ในจังหวัดที่ค่าครองชีพพุ่งสูงมาก ดังนั้นอย่างน้อยต้องได้ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ

ควรต้องปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 380-400 บาททั่วประเทศ เพื่อให้มีรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว และบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ และภาระหนี้สิน

นักวิชาการ ย้ำว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในระดับที่เหมาะสม จะช่วยให้แรงงานมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีกำลังจับจ่ายใช้สอย กระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศให้ดีขึ้น และช่วยบรรเทาปัญหาภาระหนี้ครัวเรือน ซึ่งตอนนี้อยู่ในระดับที่สูงมาก 

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark